"สมชัย" เปิดงบ66 โครงการปรับปรุงแหล่งน้ำ ส่อเอื้อ "ปชป." พื้นที่การเมือง

       นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 (พ.ร.บ.งบฯ66) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพิจารณางบประมาณของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ส่อว่าเป็นการจัดงบประมาณ เพื่อเอื้อให้กับรัฐมนตรีและนักการเมืองในพื้นที่ เช่น กรมการข้าว ที่พบว่าในปีงบประมาณ 2566 ถูกจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นกว่า 1.7หมื่นล้านบาท ทั้งที่ปี 2565 ได้รับงบ 2,100 ล้านบาท  , กรมชลประทาน ที่พบในส่วนของโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำ ที่พบว่า ในพื้นที่ จังหวัดพัทลุง ได้รับจัดสรรทั้งสิน 15 โครงการ , จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ได้รับ 23 โครงการ ขณะที่ในจังหวัดอื่นๆ ได้รับงบจากโครงการดังกล่าวเฉลี่ย 3-4 โครงการเท่านั้น และเมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า จังหวัดพัทลุง ได้รับจัดสรรโครงการไม่ใช่พื้นที่ประสบภัยแล้ง และเมื่อนำเขตเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเทียบเคียง พบว่าเป็นพื้นที่เลือกตั้งที่พรรคประชาธิปัตย์แพ้ให้กับพรรคภูมิใจไทย 

         นายสมชัย กล่าวด้วยว่า ในการชี้แจงของอธิบดีไม่พบคำตอบที่น่าพอใจ เพราะตอบในรายละเอียดที่ไม่เกี่ยวกับการจัดงบลงแต่ละพื้นที่เช่น ท่องเที่ยว ข้าวสังข์หยด อ่างเก็บน้ำ เป็นต้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับการจัดงบในพื้นที่ที่ตนตั้งข้อสังเกต ว่า เป็นไปเพื่อการเมืองหรือไม่   อย่างไรก็ดีทางอธิบดีจะทำเอกสารชี้แจงกมธ.อีกครั้ง

         เมื่อถามว่าการตรวจสอบในกมธ.ดังกล่าวมีสิ่งที่ยืนยันถึงการกระทำผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ต้องรอให้การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ66 ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ผ่านวาระสามและตราเป็นกฎหมายบังคับใช้ หากยังพบงบดังกล่าวอยู่ ส.ส.และส.ว. สามารถเข้าชื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา144 โดยใช้เสียง 1 ใน 10 คือ ส.ส. 50 คน ส.ว. 25 คน  และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ภายใน 15 วัน หากพบว่าผิด คณะรัฐมนตรี ต้องพ้นไปทั้งคณะ แต่ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานการสั่งการของรัฐมนตรี หรือส.ส. ​ 

         “ตอนนี้จะผิดหรือไม่ต้องรอก่อน ผมขอฝากไปยังฝ่ายการเมืองหากคิดว่าเป็นการจัดงบที่ไม่เหมาะสม ต้องยอมให้ถูกตัดโครงการออก เรื่องถึงจะจบ  ส่วนกรณีที่อาจมีประเด็นฮั้วกันของส.ส.ในตอนท้ายหรือไม่ นั้น ผมไม่ทราบ แต่ผมเชื่อว่า หากมีความชัดเจน การหา ส.ส. 50 คนเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่ยาก เพราะเป็นหน้าที่ของส.ส.ที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชน” นายสมชัย กล่าว

         นายสมชัย กล่าวว่า หากตัดงบได้ ยอมรับว่าประชาชนคือผู้เสียผลประโยชน์ แต่การจัดสรรงบประมาณควรให้เกิดความเป็นธรรมในพื้นที่ และเหมาะสม ไม่ใช่จัดสรรให้เฉพาะพื้นที่ของนักการเมือง อย่างไรก็ดียังมีงบประมาณที่ตนมีข้อสังเกตในประเด็นดังกล่าวด้วย คือ งบประมาณของกระทรวงคมนาคม ที่พบว่าจัดสรรงบประมาณลงให้กับ จ.บุรีรัมย์ มากสุดรองลงมาคือ จ.สุรินทร์ ซึ่งกมธ.งบฯ เตรียมพิจารณาในวันที่ 22 มิถุนายน