“ถวิล” คืนสังเวียน! ลุยกระบี่รณรงค์ “ปลดล็อกท้องถิ่น” ชี้ รธน.60 คืออุปสรรค

“ถวิล” คืนสังเวียน! ลุยกระบี่รณรงค์ “ปลดล็อกท้องถิ่น” ชี้ รธน.60 คืออุปสรรค

“ถวิล ไพรสณฑ์” คืนสังเวียน! ลงใต้เยือนกระบี่ ควง ส.ส.ก้าวไกล ผนึกกำลัง “คณะก้าวหน้า” รณรงค์ “ปลดล็อกท้องถิ่น” รำลึก 90 ปีประชาธิปไตยไทย ชี้ รธน. 2560 คืออุปสรรค “กระจายอำนาจ” ลั่นต้องแก้ไข ขอแค่ครั้งเดียว ถ้าทำเสร็จไม่มีรัฐบาลไหนกล้ารวบกลับอีก

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2565 ที่เทศบาลเมืองกระบี่ นายถวิล ไพรสณฑ์ สมาชิกพรรคก้าวไกล อดีต รมต.ทบวงมหาวิทยาลัย และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะตัวแทนผู้เชิญชวนเข้าชื่อเสนอกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น “แคมเปญขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น” พร้อมด้วยนายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะที่ขับเคลื่อนนโยบายการกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกล นายประเสริฐพงษ์  ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายวศิน สิริเกียรติกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกระบี่เขต 1 พรรคก้าวไกล ร่วมบรรยายในหัวข้อ “กระบี่ดีกว่านี้ได้ถ้าปลดล็อกท้องถิ่น

นายถวิล กล่าวว่า การกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น มีการพูดคุยและต่อสู้กันมานานในหมู่ผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และวันนี้เป็นวันที่ประเทศไทยมีประชาธิปไตยครบ 90 ปี ทั้งนี้ เรื่องกระจายอำนาจ เรื่องท้องถิ่นเป็นประชาธิปไตยที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุดตั้งแต่เกิดจนตาย ทุกช่วงเวลาของชีวิตท้องถิ่นล้วนเกี่ยวข้องไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปัจจุบันและรัฐบาล คสช. รวบอำนาจ ยึดอำนาจจากประชาชน ไปสู่รัฐราชการ อำนาจและทรัพยากรส่วนใหญ่ไปอยู่ที่ส่วนกลาง ทั้งๆ ที่ไม่มีใครรู้ปัญหาของท้องถิ่นดีเท่ากับประชาชนในท้องถิ่น การแก้ปัญหาต้องให้คนที่รู้ปัญหาเข้าไปแก้ คนที่ถูกแต่งตั้งมาจากส่วนกลาง ไม่มีทางรู้ปัญหาทั้งหมดของพื้นที่ได้ ดังนั้น ต้องให้ประชาชนมีอำนาจ ต้องให้คนที่ประชาชนเลือกมาเข้ามาจัดการแก้ปัญหาในท้องถิ่น มีทั้งอำนาจ งบประมาณ และบุคคลากร

"ปัจจุบันอำนาจระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ทับซ้อนกัน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องถนน ท้องถิ่นก็ทำแล้ว แต่ยังมีกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ของส่วนกลางทำอีก ไม่นับว่าจะมีทำไมตั้งสองกรม บางทีประชาชนไม่รู้เลยว่าถนนเส้นไหนเป็นของใคร ซ้อนทับกันไปหมด ทั้งๆ ที่อำนาจทำบริการสาธารณะอย่างถนนนี้ ควรเป็นภารกิจของท้องถิ่น โดยท้องถิ่นต้องมีงบประมาณและอำนาจทั้งการสร้าง ปรับปรุงและซ่อมบำรุง การกระจายอำนาจเป็นทางออกทางเดียวที่จะแก้ไขปัญหาของประชาชนและประเทศไทย ซึ่งมหาวิกฤติสำคัญหลายๆ เรื่องของประเทศจะหาทางออกได้ก็ด้วยให้มีการกระจายอำนาจ แต่รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นอุปสรรคสำคัญในการกระจายอำนาจ เลยจำเป็นต้องถูกแก้ไข ถูกปลดล็อก เพื่อให้การกระจายอำนาจที่แท้จริงเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย" นายถวิล กล่าว

“ถวิล” คืนสังเวียน! ลุยกระบี่รณรงค์ “ปลดล็อกท้องถิ่น” ชี้ รธน.60 คืออุปสรรค

ส่วนนายวรภพ กล่าวตอนหนึ่งว่า การปลดล็อกท้องถิ่น คืนอำนาจสู่ท้องถิ่น เป็นวิธีเดียวในการเปลี่ยนภาครัฐ เปลี่ยนระบบราชการให้มายึดโยงกับประชาชน ให้มาทำงานรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งทางพรรคก้าวไกลได้เตรียมไว้แล้วหากได้เป็นรัฐบาลหรือเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยเรื่องสำคัญหนึ่งคือในปัจจุบันการจัดแบ่งรายได้ของท้องถิ่นตอนนี้ไม่เป็นธรรม ซึ่งให้คนที่อยู่ที่ส่วนกลางคิด ออกแบบตัดสินใจ เราเสนอว่าเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นภาษีที่ประชาชนในแต่ละพื้นที่จ่ายกันแทบจะทุกวันทุกเวลา ดังนั้น ต่อไป 50% หรือครึ่งหนึ่งควรอยู่ที่ท้องถิ่น หรือภาษีน้ำมัน 50% ก็ควรอยู่ที่ท้องถิ่น ให้แต่ละท้องถิ่นได้มีเงินงบประมาณไปใช้พัฒนาพื้นที่ของตนเอง เกิดการจ้างงานในพื้นที่ ประชาชนไม่จำเป็นต้องออกไปหางานทำในจังหวัดใหญ่ๆ ประชาชนจะได้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพและดำเนินชีวิตได้อย่างแท้จริง

"คนและงบประมาณต้องกระจายไปพร้อมกัน ประเด็นเรื่องบุคลากรต่อไปศักดิ์และสิทธิระหว่างข้าราชการท้องถิ่นและข้าราชการส่วนกลางต้องเท่าเทียมกัน เมื่ออำนาจการจัดทำบริการสาธารณะไปอยู่ที่ท้องถิ่นทั้งหมดแล้ว อาจต้องมีการโอนย้ายข้าราชการจากส่วนภูมิภาค จากส่วนกลางโดยสมัครใจ แต่จะเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะอยากโอนมาสังกัดท้องถิ่น หากศักดิ์และสิทธิไม่เท่ากัน ดังนั้น สิทธิประโยชน์ยังคงเดิม ความก้าวหน้ายังมีอยู่เหมือนเดิม ทุกอย่างยังเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนนาย จากคนที่อยู่ที่ส่วนกลาง เป็นผู้บังคับบัญชาที่อยู่ที่ท้องถิ่น ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ข้าราชการจะได้รับใช้และแก้ไขปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง” นายวรภพ กล่าว

นายวรภพ กล่าวทิ้งท้ายว่า การกระจายอำนาจ เป็นการคืนอำนาจให้กับประชาชนไปในพื้นที่ต่างๆ ดังนั้นเมื่ออำนาจอยู่ที่ประชาชนแล้ว ประชาชนตระหนักว่าตัวเองมีอำนาจและมีสิทธิที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ปัญหาต่างๆ ถูกแก้ไขในระดับพื้นที่ได้เลย ประชาชนก็จะหวงแหนสิทธิอันนี้ จึงเชื่อว่า เรื่องการกระจายอำนาจขอแค่ครั้งเดียว หากทำสำเร็จได้อย่างแท้จริงเชื่อว่าไม่มีรัฐบาลไหนกล้าดึงรวบอำนาจกลับไปอีก เมื่อเป็นเช่นนั้น ประเทศไทยจะไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม ประเทศไทยจะไม่มีวันเป็นรัฐรวมศูนย์อีกต่อไป