หนุนปลูกไม้มีค่า ใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้จริง ชี้ปล่อยสินเชื่อแล้ว 137 ล้าน
รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ สนับสนุนปลูกไม้มีค่า ใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้จริง! สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อแล้ว 137 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามความคืบหน้าการขับเคลื่อนนโยบายปลูกไม้มีค่า เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และสามารถใช้เป็นหลักประกันกู้ยืมเงิน จากสถาบันการเงิน
โดยทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่าได้เดินหน้าให้ความความรู้กับผู้นำและผู้บริหารกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างความรับรู้เกี่ยวกับไม้ยืนต้นที่มีค่า อาทิ สัก พะยูง มะค่า ตะเคียนทอง กฤษณา เหลืองปรีดี กัลปพฤกษ์ นางพญาเสือโคร่ง จำปีสิรินธร เป็นต้น ให้ใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรและประชาชนให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ระบุว่า สถิติการจดทะเบียนการนำต้นไม้มาเป็นหลักประกัน มีทั้งสิน 1.46 แสนต้น เป็นจำนวนเงินค้ำประกันกว่า 137 ล้านบาท ทั้งนี้ แบ่งเป็น
- ยื่นกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวนต้นไม้ 318 ต้น จำนวนเงินค้ำประกัน 3 ล้านกว่าบาท
- ยื่นกับธนาคารกรุงไทย จำนวน 23,000 ต้น จำนวนเงินค้ำประกัน 128 ล้านบาท
- ยื่นกับพิโกไฟแนนซ์ จำนวนต้นไม้ 1.2 แสนต้น จำนวนเงินค้ำประกัน 6 ล้านบาท
รวมต้นไม้ที่นำมาเป็นหลักประกัน เช่น สัก มะขาม มะเกลือ ยอป่า มะม่วง ไม้แดง ยาง ประดู่ป่า ประดู่บ้า มะหาด พะยอม เต็ง ตะแบกนา มะขามเทศ ตะกู พฤกษ์ ทุเรียน ขนุน
นางสาวรัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเกษตรกรและประชาชนปลูกไม้ยืนต้นมีค่า เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศแล้ว ผู้ปลูกยังใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอกู้เงิน ทำให้เข้าถึงสินเชื่อที่มีกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน อีกทั้งส่งผลดีต่อสถาบันการเงินที่สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น
ขณะนี้มีผู้ปลูกไม้มีค่าบนที่ดินของตนเองมากขึ้น หลังจากทราบว่า สามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันการขอสินเชื่อเพื่อต่อยอดธุรกิจหรือใช้สอยในชีวิตประจำวันได้ โดยไม่จำเป็นต้องตัดต้นไม้
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์