“ไทยสร้างไทย” เปิดกำไรรัฐวิสาหกิจพลังงาน 6.6 แสนล.-จี้รัฐลดค่าไฟช่วยปชช.
“ไทยสร้างไทย” เปิดตัวเลขกำไรของรัฐวิสาหกิจพลังงาน 3 การไฟฟ้า รวยอื้อ กำไรสะสมรวมกันกว่า 6.6 แสนล้านบาท เรียกร้องรัฐเข้ามาดูแลโดยด่วน ประชาชนบ่นสู้ไม่ไหว ค่าไฟแพง แนะเปลี่ยนวิธีคิด KPI รัฐวิสาหกิจใหม่
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค พร้อมด้วยน.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการอำนวยการและพัฒนาพรรค และนายนพดล มังกรชัย ประธานคณะกรรมการวิชาการพรรค ร่วมกันแถลงข่าวคัดค้านการขึ้นค่าไฟฟ้า โดย น.ต. ศิธา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในหลายจังหวัด ประชาชนร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากค่าครองชีพ สินค้าทุกประเภทเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะล่าสุด ค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น แต่หากมาดูตัวเลขทั้ง 3 การไฟฟ้า ประกอบด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่เป็นรัฐวิสาหกิจในธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ต่างก็มีผลกำไรสะสมมหาศาลกว่า 6.6 แสนล้านบาท
ซึ่ง กฟผ. มีกำไรสะสมอยู่ที่ 3.74 แสนล้านบาท / กฟน. มีกำไรสะสม 1.1 แสนล้านบาท / กฟภ. มีกำไรสะสม 1.8 แสนล้านบาท ในขณะที่ประชาชนต้องรับภาระค่าไฟฟ้าแพงอย่างแสนสาหัส แต่ 3 การไฟฟ้า มีกำไรจำนวนมาก ส่วนตัวเลขของบริษัทลูกของ กฟผ. พบว่า- บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) มีกำไรสะสม 5.5 หมื่นล้านบาท และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) มีกำไรสะสม 3.7 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในสมัยที่ตนเป็นประธานบอร์ดบริหารการท่าอากาศยาน ซึ่งถือเป็นรัฐวิสาหกิจเกรดเอ ที่ต้องส่งเงินเข้ารัฐ แต่การบริหารงานในเวลานั้น เรามุ่งเน้นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก โดยเที่ยวบินภายในประเทศ การท่าฯยอมขาดทุนประมาณ 150 บาทต่อคน เพื่อลดค่าใช่จ่ายภาคประชาชนและสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ไปมุ่งเน้นการทำกำไรกับเที่ยวบินต่างประเทศเพื่อมาชดเชย
ซึ่งเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าแม้จะเป็นรัฐวิสหกิจเกรดเอ แต่ก็สามารถดำเนินการเพื่อลดภาระประชาชน และยังประกอบกิจการโดยมีผลกำไรได้ ซึ่งหลักการสำคัญของรัฐวิสาหกิจ จำเป็นต้องประกอบกิจการที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก แต่การประกอบกิจการในประเทศไทยมีความผิดฝาผิดตัว เพราะผู้ประกอบกิจการบ้านเราเติบโตจากการผูกขาดสัมปทาน และเอื้อผลประโยชน์เชิงระบบอุปถัมภ์
“จึงทำให้มีความเหลื่อมล้ำสูงอันดับต้นๆของโลก แม้ว่ารัฐบาลนี้จะบอกว่าไม่มีการทุจริต และใช้รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง แต่การทุจริตคอรัปชั่นกลับยังเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จนดัชนีทุจริตของไทย สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์”
ด้าน นายนพดล กล่าวว่า เจตนารมย์ของกฎหมายการประกอบกิจการพลังงานนั้น รัฐพึงจะต้องปกป้องผลประโยชน์ของผู้ใช้พลังงาน ทั้งในเรื่องอัตราค่าบริการ ที่ต้องมีระดับราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม จริงอยู่การประกอบธุรกิจของรัฐวิสาหกิจแม้จะสามารถมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ แต่ก็ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะแสวงหากำไรสูงสุดบนค่าใช้จ่ายที่ประชาชนต้องแบกรับ โดยเฉพาะในมาตรา 8 (1) ที่เน้นความเป็นธรรม ดังนั้น รัฐบาลจะต้องกลับมาดูวัตถุประสงค์เดิมเป็นหลัก เพื่อหยุดการเน้นสร้างกำไร แต่ต้องหันมาดูแลประชาชนให้มากขึ้น ในยามวิกฤตที่ประชาชนต่างได้รับความลำบากเช่นนี้
ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทย ขอเสนอแนวทางลดค่าครองชีพให้กับประชาชน 2 ประการคือ 1.รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการเปลี่ยนตัวชี้วัด KPI ใหม่ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ต้องเปลี่ยนนโยบายหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภคสาธารณปการ ที่มุ่งเน้นการกำไรเข้ารัฐ มาเป็นลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนแทน
และ 2.รัฐบาลจำเป็นต้องเจรจากับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนทั้งในประเทศและเพื่อนบ้านซึ่งเป็นกลุ่มทุนไทย และบางส่วนเป็นบริษัทลูกของ กฟผ. ให้ลดค่าความพร้อมจ่ายลงมา เพราะตรงนี้คือค่าใช้จ่ายมากที่สุดในระบบไฟฟ้าของไทยในปัจจุบัน