“สามารถ”แจงลาออก“ผู้ช่วยรมต.ยุติธรรม”เองไม่ได้โดนปลดปมส่งลูกน้องสอบแทน

ผู้สื่อข่าวมีรายงาน นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐและอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ได้ไลฟ์สดเพื่อชี้แจงกระเเสข่าวว่าตนเองวิ่งเต้นเพื่อขอลงสมัคร ส.ส. โดยระบุว่า “ตอนนี้เฟกนิวส์เยอะ สื่อควรตรวจสอบที่มา โดยล่าสุดมีการเสนอข่าวว่าแกนนำพรรคต้านตนไม่ให้ลงสมัคร ส.ส. ผมไม่เคยไปขอหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐลงสมัคร ส.ส.แม้แต่ครั้งเดียว แม้ตอนนี้พรรคสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ก็ตาม" 

"ส่วนเรื่องการเรียน การทดสอบที่สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยรามคำแหงที่มีคนไปเข้าสอบแทนผมมันเป็นอดีตที่ผมไม่อยากพูดถึง มันเป็นเรื่องการเมืองในตอนนั้นหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่ผมไม่ได้รับจดหมายจากพรรคในเรื่องนี้เลย หากมติกรรมการสอบสวนลงมติว่าผิด ผมมีสิทธิอุทธรณ์มติต่อกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคได้ แต่ผมยังไม่ได้อุทธรณ์ และแม้พรรคมีมติให้ผมพ้นหน้าที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม แต่ผมลาออกเอง และมติพรรคนั้นก็ต้องอยู่ในอำนาจนายกรัฐมนตรีว่าจะปลดผมหรือไม่" นายสามารถกล่าว

นายสามารถกล่าวว่า ตอนนี้รัฐมนตรีบางคนถูก ป.ป.ช.ชี้มูล รัฐมนตรียังไม่ลาออกเลยเพราะต้องรอการตัดสินของศาล เพราะรัฐมนตรีถือว่ายังบริสุทธิ์ แต่เรื่องของตนมีการอ้างจริยธรรมของนักการเมือง ข่าวนี้ตนเสียหายไปครั้งหนึ่งแล้ว และมันเป็นเฟกนิวส์เพราะตนไม่เคยขอลงสมัคร ส.ส.และตำแหน่งอื่นจากหัวหน้าพรรคเลย
 

“ผมรักเคารพ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเสมือนพ่อ หากพลเอก ประวิตรบอกให้ผมลาออกผมก็จะทำ แต่พลเอก ประวิตรยังไม่ได้บอกผม พลเอก ประวิตรลงพื้นที่ครั้งใดหากผมสะดวกก็จะติดตามไปด้วย พลเอก ประวิตรไม่เคยไล่ผม หากพลเอก ประวิตรไล่ ผมก็กราบลาเพราะการเมืองนั้นมีนับร้อยพรรคการเมือง และขึ้นอยู่กับประชาชนว่าศรัทธาพรรคและผู้สมัคร ส.ส.คนไหน” นายสามารถกล่าว

นายสามารถกล่าวว่า วันนี้ตนทำหน้าที่เดียวคือใครพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และพล.อ.ประวิตร ด้วยข้อมูลเท็จและใส่ร้าย ตนจะออกมาชี้แจง เพราะไม่เช่นนั้นสังคมจะเชื่อเฟกนิวส์นั้น และข่าวของตนในตอนนี้ตนเสียหาย ขอให้สื่อที่ลงข่าวนี้ลบข่าวและตนจะแจ้งความไว้ก่อน

“ผมมีหนังสือชี้แจงจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงตอบมาว่าผมไม่ผิด และไม่ขอย้อนอดีตฟื้นฝอยว่าใครทำและผลงานใคร เพราะผมอโหสิกรรมไปแล้ว ผมบริสุทธิ์แล้วก็ไม่เคยไปขอตำเเหน่งทางการเมืองจากหัวหน้าพรรค ผมเสียเวลามากพอในการช่วยประชาชน เเต่หนังสือจากพรรคผมไม่ได้รับ และผมยังมีสิทธิอุทธรณ์มติพรรค หากสื่อมีหนังสือของพรรคขอให้นำมาด้วย เพราะผมเสียหาย ผมทำหน้าที่ปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนและตัวเอง” นายสามารถกล่าว
 

“วันนี้ผมขอชี้แจงเพราะเฟกนิวส์วันนี้เร็ว ครั้งที่แล้วผมเลือกเงียบและสังคมเชื่อไปเเล้ว ผมไม่เคยให้ร้ายพรรคแม้แต่ครั้งเดียว ส.ส.หลายคนไม่เห็นด้วยกับมติพรรคก็แสดงความเห็น แต่ผมเป็นสมาชิกพรรคที่ดี ผมเป็นเด็กดี ไม่ให้ร้ายพรรคแม้แต่ครั้งเดียว” นายสามารถกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือของพรรคพลังประชารัฐที่สอบสวนเรื่องของนายสามารถนั้นลงนามโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงส่งไปให้หัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2564 โดยใจความหลักระบุว่าได้สอบสวนเรื่องนี้ด้วยการเชิญฝ่ายต่างๆ มาให้ข้อมูลรวมทั้งนายสามารถและนายตำรวจที่ไปเข้าสอบแทนนายสามารถมาชี้แจง โดยคณะกรรมการฯ ตรวจสอบแล้วมีมติเอกฉันท์ว่านายสามาถให้นายตำรวจนายหนึ่งเข้าเรียนและสอบแทนจริง แต่นายสามารถปฏิเสธข้อกล่าวหา