ถึงคิว! “ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจฯ-กกต.ชงศาล รธน.ตีความนายกฯ 8 ปี “บิ๊กตู่”
ถึงคิว! “ศรีสุวรรณ” ยื่นร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน-กกต. ส่งศาล รธน.วินิจฉัยปมนายกฯ 8 ปี “บิ๊กตู่” เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขอให้ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยด้วย
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2565 ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และ กกต. ขอให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับสถานะนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ในวันที่ 23 ส.ค. 2565 หากนับตั้งแต่การเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อ 24 ส.ค.2557 ว่าเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่ ที่บัญญัติว่านายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่ไม่ให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป หลังจากพ้นจากตำแหน่ง หรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 24 ส.ค.2557 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ครั้งที่ 2 วันที่ 9 มิ.ย.2562 ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ทำให้ขณะนี้มีข้อถกเถียงในสังคมต่อเรื่องดังกล่าว โดยมีความเห็นแบ่งเป็น 3 ทางทางที่ 1.เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์จะดำรงตำแหน่งได้ถึงแค่คืนวันที่ 23 ส.ค.นี้ เพราะไม่มีบทยกเว้นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 โดยมองว่าถ้ารัฐธรรมนูญมีเจตนาที่จะไม่ให้ใช้บทบัญญัติว่าด้วยคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของคณะรัฐมนตรีในข้อใดมาบังคับใช้กับคณะรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งมาก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 ต้องเขียนระบุชัดเจนไว้ในบทเฉพาะกาล ซึ่งในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ได้บัญญัติให้มีการยกเว้นการนำมาตรา 158 วรรคสี่ มาใช้บังคับกับนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนหน้ารัฐธรรมนูญประกาศใช้ ระยะ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ได้โปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 1 คือ 24 ส.ค. 2557 และดำรงตำแหน่งได้ถึงคืนวันที่ 23 ส.ค. 2565 เท่านั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ส่วนความเห็นที่ 2 มองว่าตามหลักกฎหมายทั่วไปและหลักนิติธรรมจะบังคับใช้กฎหมายที่เป็นโทษกับบุคคลย้อนหลังไม่ได้ ถ้าจะบังคับใช้ต้องมีการบัญญัติไว้อย่างชัดเจน ซึ่งกรณีนี้รัฐธรรมนูญ 2560 ใช้บังคับเมื่อ 6 เม.ย.2560 และพล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ 9 มิ.ย. 2562 หากนับเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ 8 ปี นับแต่ได้รับการโปรดเกล้าพล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถตำแหน่งถึงปี 2570 โดยจะเกินวันที่ 24 ส.ค. 2570 เสียด้วยซ้ำ เพราะจะต้องมีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่อย่างน้อย 1 ครั้งคืออย่างช้าที่สุดคือต้นปี 2566 เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรครบวาระ 4 ปี จึงจะมีช่วงดำรงตำแหน่งในนายกรัฐมนตรีที่อยู่ปฏิบัติหน้าต่อไปหลังพ้นตำแหน่ง ตามมาตรา 158 วรรคสี่ตอนท้าย ไม่ได้ให้นับรวมเข้าไว้เป็นข้อจำกัด 8 ปี และความเห็นที่ 3 มองว่าการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เริ่มนับแต่วันที่ 6 เม.ย. 2560 รัฐธรรมนูญประกาศใช้ ซึ่งถ้าเริ่มนับระยะเวลาตามนี้พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ในปี 2568
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวสังคนไทยวิพากวิจารณ์กันอย่างมากว่าสุดท้ายแล้วพล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งได้ถึงเมื่อใด ทางสมาคมฯจึงจำเป็นต้องหาข้อยุติ และเห็นช่องทางว่ากกต.และผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถจะคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งได้โดยการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับการบริหารราชการแผ่นดิน ขอให้ในการยื่นเรื่องมีคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ ยุติปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย