กระแส “รวมไทยสร้างชาติ” ดีต่อเนื่อง “พีระพันธุ์” เมินเป็นนั่งร้าน “บิ๊กตู่”
กระเเส “รวมไทยสร้างชาติ” ดีต่อเนื่อง สมาชิกหลายวงการเพิ่มขึ้น “พีระพันธุ์” เมินเป็นพรรคนั่งร้าน “บิ๊กตู่” ขอทำงานให้ ปชช. แก้กฎหมายสร้างความเป็นธรรม ไม่สนสูตรหาร 100 หรือ 500 พร้อมสู้ทุกกติกา ไม่เสียเวลาเล่นเกมการเมือง
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2565 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระบุว่า หลังจากที่เปิดตัวพรรคไปเเล้ว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งผู้ทำงานด้านการเมืองที่รู้จักอยู่แล้ว และยังมีคนรุ่นใหม่ ที่อยากจะทำงานด้านการเมืองและมีอุดมการณ์เดียวกัน ที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้ไปเดินสายหรือติดต่อใครเป็นพิเศษ เพราะทุกคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง ถ้าเห็นด้วยกับแนวทางการทำงานของพรรครวม ก็ยินดีเปิดรับมาทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองด้วยกัน
นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า การทำพรรคไม่ได้ยืดโยงหรือมีวาระอื่นๆ นอกจากอยากเข้ามาทำตามความตั้งใจ ในฐานะหัวหน้าพรรคขอยืนยันในอุดมการณ์และแนวทางการทำงานของพรรค ที่มุ่งเน้นแก้ปัญหาของชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายที่ยังไม่ชัดเจน เพื่อเป็นเครื่องมือในการขจัดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคมอย่างแท้จริง โดยสมาชิกที่มาร่วมกันทำงานก็อยากสร้างพรรคการเมืองที่เป็นนักการเมืองของประชาชน ไม่ได้หวังตำแหน่งทางการเมือง เเละจะไม่ทะเลาะทางการเมือง
สำหรับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหารด้วย 100 และ 500 นั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ได้ให้ความสนใจ และรู้สึกเบื่อมาก เสียเวลาที่จะมาถกเถียงกันเรื่องนี้ แทนที่จะเอาเวลาไปหาทางช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ใครอยากจะเล่นการเมืองก็เล่นกันไปในสภาฯ พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เเต่ยอมรับว่าไม่ว่าสูตรไหนก็ย่อมจะมีผลกระทบกับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ถ้าเรื่องของ ส.ส.เขตไม่มีปัญหา เเละเรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ไม่ใช่เรื่องของประชาชน เพราะจะหารเท่าไร ประชาชนก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรอยู่แล้ว ดังนั้นจึงคิดว่านักการเมืองควรเอาเวลาไปทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนดีกว่าจะมาถกเถียงกันเรื่องนี้ เเต่เตรียมตัวสู่ตามกติกาดีกว่า
ส่วนที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่หวั่นหลังนายพีระพันธุ์ ประกาศกวาด ส.ส. ยกภาคใต้ นั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ทุกพรรคก็ต้องพร้อมเผชิญหน้ากับการเลือกตั้งอยู่แล้ว และไม่รู้สึกลำบากใจว่าจะเป็นการต่อสู้ตัดคะแนนกันเอง เพราะทุกพรรคการเมืองมีสิทธิ์ที่จะเสนอแนวทางทำงานให้ประชาชน ส่วนประชาชนจะเลือกใครก็เป็นสิทธิ์