“บิ๊กตู่” สั่งเข้มตรวจผู้ลักลอบค้ายาผิดกฎหมายผ่านออนไลน์ เป็นภัยเยาวชน
รองโฆษกรัฐบาลเผย “นายกฯ” สั่งบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดผู้ลักลอบขายยาผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางออนไลน์ ชี้เป็นภัยต่อเยาวชน หลัง “โรฮิบนอล-ยาลิ้นฟ้า” ระบาดหนัก
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยกรณีที่มีการขายยาผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์จำนวนมากและมีเยาวชนนำยาไปใช้ในทางที่ผิดทั้งลักษณะใช้ทดแทนสารเสพติด หรือมีผู้ใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดก่ออาชญากรรมรูปแบบต่างๆ เช่นกรณียาโรฮิบนอล (Rohypnol) หรือยาลิ้นฟ้า ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ ตามที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)และกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาให้ข้อมูลของยาทั้งในแง่การออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และโทษของผู้ลักลอบขายโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วนั้น นายกรัฐมนตรีขอให้มีการประสานงานทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการสืบหาเบาะแสแหล่งผลิต จำหน่ายที่ผิดกฎหมายทุกช่องทางเพื่อกวาดล้างถึงต้นตอ และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ทำผิดอย่างเข้มงวด
น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า การซื้อขายออนไลน์เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงโดยเฉพาะในกลุ่มเยาชน เปิดโอกาสให้มีการขายสินค้าผิดกฎหมายมากขึ้น นายกรัฐมนตรีขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด เป็นตัวอย่างไม่ให้มีการทำผิด อย่างไรก็ตาม สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ได้มีคำเตือนว่าโรฮิบนอลเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทที่ 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559 การใช้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ ผู้สั่งจ่ายยา ต้องเป็นแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตว์แพทย์เท่านั้น ไม่มีการขายในร้านขายยาทั่วไป
“ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดการนิยมใช้โรฮิบนอลในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นกระแสมาจากต่างประเทศ ทั้งการอมเพื่อให้เกิดความมึนเมา หรืออมร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเสริมฤทธิ์ โดยมีการลักลอบขายผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีการ ผลิต ขาย นำเข้า ส่งออกโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข มีโทษหนักจำคุก 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท ส่วนกรณีสถานพยาบาลที่มีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ก็ต้องมีใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุ ออกฤทธิ์ ฝากฝ่าฝืนก็มีโทษจำคุก 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท” น.ส.ไตรศุลี กล่าว