“นายกฯป้อม” ถก “คนช.” แนะ ปชช.ขึ้นทะเบียน “แรงงานนอกระบบ” เพื่อรับเยียวยา
“ประวิตร” นั่งหัวโต๊ะ ถก บอร์ดแรงงานนอกระบบ เคาะ ร่างแผนปฏิบัติการ สั่ง เร่ง ออกกฎหมายส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ คาด เสร็จ ต.ค.65 แนะ ปชช. ขึ้นทะเบียนแรงงานนอกระบบ เพื่อเป็นฐานข้อมูลช่วยเหลือเยียวยา ขอบคุณทุกฝ่ายทำงานตามนโยบาย “ประยุทธ์”
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบแห่งชาติ (คนช.) ครั้งที่1/2565 ที่ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ ประจำปี64 ซึ่งมีการส่งเสริมคุ้มครอง และพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ จำนวน 67 โครงการ/กิจกรรม มีแรงงานนอกระบบที่ได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิต รวม 16,876,660 คน (5,736 ล้านบาท) มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6,853 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 4 ของรายได้ในปี63 เฉลี่ย6,586 บาทต่อเดือน และรับทราบผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาการตลาดสินค้ากลุ่มผู้ทำการผลิตที่บ้านหลังการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ภายใต้ความร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ(Homenet) ซึ่งมีแรงงานนอกระบบได้รับประโยชน์ 1,160 คน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 4,500 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 80 ของรายได้ ก่อนการระบาดของ โควิด-19 (เฉลี่ยต่อเดือน 2,500 บาท) รวมทั้งรับทราบความคืบหน้า(ร่าง)พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ...ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน ต.ค.65
จากนั้นที่ ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ (ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2566-2570 โดย กระทรวงแรงงานได้ร่วมกับ ม.ธรรมศาสตร์และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมเชิงปฏิบัติการและร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ "แรงงานนอกระบบ มีศักยภาพสูงมีงานทำ ได้รับการคุ้มครอง และมีหลักประกันทางสังคมที่ดี" เพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินการ ต่อไป
พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำ ทุกหน่วยงานให้นำแผนปฏิบัติการที่ผ่านการเห็นชอบแล้ว ไปสู่การปฏิบัติ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเร่งผลักดัน กฎหมายส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบโดยเร็ว เพื่อให้แรงงานได้รับการคุ้มครองและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนให้ขึ้นทะเบียนแรงงานนอกระบบ เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงทีต่อไป
พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะรมว.กลาโหม ที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และช่วยเหลือประชาชน ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ให้มีความอยู่ดี กินดี อย่างยั่งยืน