“ก้าวไกล” ออกโรงฉะ “นิพนธ์” ชิงลาออก รมช.มหาดไทย หนีศาล รธน.ฟันคาเก้าอี้
“ประเสริฐพงษ์ ก้าวไกล” ออกโรงฉะ “นิพนธ์” ชิงลาออก รมช.มหาดไทย คดีไม่จ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทาง 50 ล้านบาท หนีถูกศาล รธน.วินิจฉัยพ้นตำแหน่งคาเก้าอี้ เรียกร้อง “คนใหม่” เข้ามาสะสางความไม่ชอบมาพากล ออกเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดิน
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2565 ที่รัฐสภา นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการลาออกจากตำแหน่งของนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย ว่า หากจำกันได้ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ รมช.มหาดไทย ถึงสองครั้ง ครั้งแรกเป็นชี้ให้เห็นเรื่องการใช้อำนาจดันโครงการอุตสาหกรรมจะนะ เอื้อประโยชน์นายทุน หลังพบกว้านซื้อที่ดิน ออกโฉนดทับที่ทำกินชาวบ้าน พบเครือญาติ เครือข่าย เอี่ยวการจัดซื้อที่ดินในพื้นที่ รวมถึงจ่ายเงินให้บริษัทเอกชนที่ประมูลรถบำรุงทางเอนกประสงค์ของ อบจ.สงขลาในขณะนั้น
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจบอภิปรายไม่ไว้วางใจตนนำหลักฐานในการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมดไปยื่นต่อ ป.ป.ช. และ ป.ป.ช.ได้มีการส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ต่อมาพรรคก้าวไกล โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ยื่นหนังสื่อต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสถานภาพการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ รมช.มหาดไทย ของนายนิพนธ์ โดยเหตุการณ์ในวันนั้นมีนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภา แถลงข่าวว่าการยื่นผ่านประธานสภาในลักษณะนี้ไม่สามารถทำได้และผิดขั้นตอน ทั้งที่ความจริงแล้วตนและพรรคก้าวไกลได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพราะหลังจากนั้นประธานสภาฯได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยคุณสมบัติของนายนิพนธ์ตามที่ตนได้ยื่นคำร้อง
“เหตุการณ์ดังกล่าวชัดเจนว่ามีกระบวนการพยามขัดขวางการตรวจสอบคุณสมบัติของรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยจากเลขาฯประธานสภาฯอย่างชัดเจน” นายประเสริฐพงษ์ กล่าว
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 14 ก.ย. 2565 ที่จะมีการวินิจฉัยคุณสมบัติของนายนิพนธ์นั้นเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำพิพากษาอย่างตรงไปตรงมาแม้ตามกฎหมายประกอบวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดช่องว่าศาลรัฐธรรมนูญสามารถจำหน่ายคดีได้ แต่ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตีแผ่เรื่องนี้เป็นสามารถคลายข้อสงสัยของสังคมเพื่อประโยชน์ของสาธารณะและพี่น้องประชาชน
“หากพี่น้องประชาชนติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจของตนทั้งสองครั้งจะเข้าใจชัดเจนว่าเหตุใดนายนิพนธ์ บุญญามณีจึงขาดคุณสมบัติรัฐมนตรีโดยไร้ข้อกังขา เพราะหลักฐานการทุจริตที่นำมาอภิปรายและส่งไปยัง ป.ป.ช.ชัดเจน นอกจากนี้ประเสริฐพงษ์ตั้งข้อสังเกตว่าการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยของนายนิพนธ์ เป็นการรู้ล่วงหน้าถึงการพิจารณาคดีหรือไม่ หรือนี่อาจเป็นการชิงลาออกเพราะแท้จริงแล้วหากต้องการแสดงความรับผิดชอบจริงต้องลาออกตั้งแต่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้ว นอกจากนี้ฝากไปยังรัฐมนตรีช่วยคนใหม่ที่จะเข้าดูแลกรมที่ดินแทนนายนิพนธ์ ให้เข้ามาสะสางเอาผิดกระบวนการที่เอื้อประโยชน์ในการออกเอกสารที่ดินโดยมิชอบ ภายใต้อำนาจของนายนิพนธ์ เพื่อชำระล้างมลทินให้กระทรวงมหาดไทย” นายประเสริฐพงษ์ กล่าว