อ่านเต็มๆ สปีช "สมคิด" จุดยืนเป็นกลาง ไม่มีศัตรู
จุดยืนชัด! อ่านสปีชฉบับเต็ม "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ปาฐกถาเปิดใจคัมแบ็กการเมืองไทย ไม่ใช่หวังแค่เป็นนายกฯ ยืนยันจุดยืนเป็นกลาง พร้อมสะท้อนโจทย์ใหญ่ ความท้าทายของประเทศไทย ต้องกอบกู้เศรษฐกิจ หลังปัญหามรสุมรุมเร้าทั่วโลก
หนึ่งในกระแสการเมืองที่ทุกสายตากำลังจับจ้อง นั่นก็คือ การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ในฐานะประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรคสร้างอนาคตไทย วันที่ 8 ก.ย.65 ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์
ทั้งนี้ ดร.สมคิด ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาในหลายประเด็น ทั้งเรื่องแนวคิดการสร้างความเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เปิดใจคัมแบ็กการเมือง พร้อมให้เห็นถึงโจทย์ใหญ่ ความท้าทายของประเทศไทยในการกอบกู้เศรษฐกิจ หลังปัญหามรสุมเศรษฐกิจรุมเร้าทั่วโลก
โดย ดร.สมคิด ได้กล่าวทั้งหมดไว้ดังนี้
"วันนี้มาพร้อมลูกชายน้องคลัง ลูกชายคนเล็ก อายุ 20 ปี เรียนคณะวิศวะ พาเขามาเพื่อให้เป็นประจักษ์พยานได้เห็นได้รู้ว่าการสร้างพรรคการเมืองที่ดี มีจริง ต้องการให้เขาเรียนรู้ว่า การทำพรรคการเมืองไม่ใช่ของง่าย ต้องการให้เขาเข้าใจว่า ทำไมพ่อของเขาต้องกลับมาช่วยเหลือน้องๆ ทุกอย่างเป็นภารกิจหน้าที่ ตำแหน่งนายกฯ ไม่มีความหมาย สิ่งที่มีความหมายคือ การเป็นผู้นำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทย
ยากจริงๆ ที่จะหาผู้นำสร้างความเปลี่ยนแปลงในการพัฒนา บางคนพลังไม่ถึง บางคนพลังถึงแต่ไม่คิดจะทำ
วันนี้มาให้น้องคลัง ได้เห็นในสิ่งที่พ่อเขาพยายาม ไม่ว่าจะได้มากหรือน้อย เป็นชะตาบ้านเมือง ที่เขาได้ชื่อนี้ เกิดในสมัยผมเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ทำงานร่วมกับท่านวราเทพ ดูแลธนาคารประชาชน เจตนาเพื่อช่วยคนตัวเล็กๆตัวน้อย ทั้งสองคนได้ช่วยเหลือขับเคลื่อนผ่านธนาคารออมสิน ให้เอาเงินฝากคนจนไปช่วยเหลือคนตัวเล็ก เพราะเป็นธนาคารเพื่อประชาชน
จากนั้นธนาคารออมสินเริ่มธนาคารประชาชน ต่อสู้กับหนี้นอกระบบ ด้วยผลบุญอันนั้น ผมถึงได้ลูกคนนี้มา เลยตั้งชื่อเขาว่า คลัง ท่านวราเทพก็ได้ลูกสาว ชื่อน้องออม นี่คือที่มาที่ไป"
ดร.สมคิด เผยอีกด้วยว่า การมาเปิดตัวในครั้งนี้ ก็เพราะต้องการให้คนรุ่นใหม่ หรือ "นิวเจน" ได้รู้ว่า การเมืองดีก็มี โดยยืนยันว่า การกลับมาไม่ใช่หวังแค่เป็นนายกฯ ให้คิดเสียใหม่ รู้จักคนชื่อ “สมคิด” น้อยไป โดยมาครั้งนี้ด้วย 2 วัตถุประสงค์
"มาด้วย 2 วัตถุประสงค์ คือ
1.ให้กำลังใจพรรค มาเพื่อขอบคุณที่เป็นที่พึ่ง วางอนาคต วางเศรษฐกิจให้คนรุ่นหลาน ขอบคุณที่ท่านเด็ดเดี่ยวที่กล้าประกาศตนเป็น พรรคทางสายกลาง ไม่คิดสุดโต่ง สุดขั้ว ไม่แบ่งฝ่าย ไม่แบ่งสี เพราะจะทำลายอนาคตของตน ต้องเป็นตัวกลางยึดโยงให้คนในชาติมาร่วมพลัง คิดในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ที่สำคัญ ท่านมีความกล้าหาญเพียงพอที่ตั้งพรรคการเมืองในขณะนี้ เพราะสถานการณ์การเมืองเละเทะ เงินตรามีบทบาทสูงมาก
การแข่งขันทางการเมืองเหมือนการแข่งม้า มีม้าแข่งที่ต้องซื้อ มีคอกที่ต้องมีเจ้าของหาเงินเลี้ยงม้า มันโจ่งครึ่มเกินไป เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับคำว่า “ประชาธิปไตย” คนจะหันหลังให้การเมือง
อนาคตอยู่ที่ คนรุ่นใหม่ กล้าคิดอ่าน มีชุดความคิดที่จะช่วยเหลือประชาชน ไม่ต้องคำนึงว่าจะได้กี่เสียง ศรัทธาของประชาชน คือหัวใจ
เงินตราที่ซื้อคอกม้าใหญ่ๆ ได้จะมีพลัง ถ้าคุณเล่นการเมือง สร้างพรรคการเมือง คิดแต่สร้างอำนาจ แต่ถ้าไม่มีโครงสร้างปัญญา สร้างคนมีความสามารถ มีแต่โครงสร้างอำนาจ สุดท้ายจะไปไม่รอด จะพาชาติบ้านเมืองไปไม่รอด
ผมมาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะตำแหน่งแคนดิเดตนายก แต่มาเพื่อให้พรรคนี้เป็นตัวสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทย ในทางที่ถูกต้อง
โลกวันนี้ มีปัญหา ประสบมรสุมใหญ่ๆ เศรษฐกิจทุกชาติส่อแนวโน้มถดถอย พลังงานพุ่งสูง ทุกอย่างถูกสกัดกั้น การผลิตติดขัด ต้นทุนแพง สภาพภูมิอากาศทำให้การผลิตอาหารขาดแคลน คนไทย หนีไม่พ้น ไปที่ไหนมีแต่คนบ่น ชีวิตวันนี้ลำบากจริงๆ เกษตรกร รายได้น้อย ปุ๋ยราคาแพง เงินทองไม่มี จะมีความหวังได้ไง เขาจะอยู่กันอย่างไร วันนึงใช้กี่บาทแล้วได้เท่าไหร่
นี่คือเหตุผลที่ หนี้ครัวเรือน สูง เพราะตอบสนองไม่ทัน คนหวั่นตกงาน SMEs ไม่มีใครปล่อยกู้ 90% มาจาก SMEs มองไปข้างหน้า ยิ่งแย่ อเมริกาขึ้นดอกเบี้ยแล้ว เพราะเศรษฐกิจตีกลับช่วงขาขึ้นา เขากลัวเงินเฟ้อ เขาเลยตัด demand เพื่อให้ทุกคนได้ปรับตัวพร้อมกัน เงินเขาแข็งเพราะเขาพิมพ์แบงค์เอง ทำให้ประเทศที่ยากจนแย่ ถ้าคุณปรับตัวไม่เหมาะสม คุณจะอยู่ไม่ได้ ทางการต้องคิดว่าจะขึ้นเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ไม่ซ้ำเติมให้แย่กว่าเดิม
พายุลูกใหญ่ คือ จีน เศรษฐกิจหล่น แต่ที่ยังอยู่ได้ เพราะอำนาจทางการเมืองยังแข็งแรง สร้างให้เศรษฐกิจมั่นคง วันนี้มีการต่ออายุผู้นำ ในเดือนตุลาคม วันนี้สังเกตให้ดี ไม่ว่าเศรษฐกิจถดถอย อาหารขาดแคลนเพราะน้ำท่วมและแล้งรุนแรง โควิดยังไม่หยุด เซินเจิ้นยังมีคนติดเป็นร้อยๆ คน เซินเจิ้นคือแหล่งผลิตสำคัญของจีน ถ้า lock down มีจีนทำได้ประเทศเดียว เพราะทุนแข็งแกร่ง
ทุกวันนี้จีนไม่กล้าขยับ ไต้หวันก็ตึงเครียด จีนไม่มีข่าว แต่ CNN มีข่าวทุกวัน จีนไม่ขยับเพราะผู้นำยังเปลี่ยนผ่านไม่เรียบร้อย ภาวะตึงเครียดในขณะนี้ จะไม่มีทางหยุดได้ จนกว่าจะเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างมั่นคง
ช่วงนี้ต้องอดทน ได้ข่าวผู้นำเขาประชุมทุกวัน เขากังวล ถ้าจีนตึงเครียด เศรษฐกิจชะลอตัว อำนาจซื้อ นักท่องเที่ยว กระทบ ตราบใดท่องเที่ยวยังไม่สามารถฟื้นได้ จีนไม่มีอำนาจในการซื้อของ ต้องใช้เวลา นี่คือความเป็นจริง
GDP ของเรา สถานการณ์ตอนนี้หนักกว่าที่คิด เผชิญมรสุมโลก เราก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรง ปี 57 ก่อนส่งทีมสี่กุมารเข้าไป ต้องดูคนทำงานเป็น ทำงานได้ ปีนั้น GDP เหลือ 1% มีรัฐประหาร ต่างชาติไม่รับรอง ทั้งทีมช่วยทำงาน จน GDP ขยับขึ้น ก่อนจะเจอพิษของโควิด และเจอพิษการเมือง ที่แสวงหาอำนาจ แต่ไม่แสวงหาปัญญา การผสมในอดีต มีจุดมุ่งหมายร่วมว่าทำเพื่อบ้านเมือง แต่การแบ่งกระทรวงไปคนละทิศละทาง มันไม่มีพลัง ไม่ทำตามที่บอกก็ Walk out
พอโควิดมา ติดลบ 6.2% GDP เหลือ 5 แสนล้านต้นๆ ภาวะอย่างนั้น มันลึกจริงๆ ทุกอย่างชะลอตัว ณ วันนั้น ไม่มีปัญหาส่งออก ปัญหาพลังงาน มาวันนี้การส่งออกเริ่มชะลอตัว ไปดูไส้ในการส่งออก มูลค่าหดไหม พลังงานแพง
ตอนเป็นรัฐมนตรีคลัง ต้องดูทอง ดูน้ำมัน การส่งออกอ่อนแรง สินค้ามีกี่ตัวที่สู้เขาได้ เครื่องยนต์หลักของประเทศกำลังอ่อนตัว บางตัวดับสนิท พยายามคิดให้เป็นจุดสนใจใหม่ๆ มาช่วยแทนที่สิ่งเก่าๆ วงการ EEC ก็ออกมา ข้างในมี EEC I, EEC B จูงใจญี่ปุ่นมาลงทุน คึกคักมาก จีนก็มา ทุกอย่างประชุมร่วมสองชาติ จนจีน และญี่ปุ่น จะลงทุนร่วมที่ EEC แต่วันนี้ ไม่มีประชุมร่วมอีกเลย
เมื่อ EEC ไปอย่างช้าๆ รถไฟความเร็วสูง โครงการสนามบิน โครงการเหล่านี้ ทำให้ถนนทุกสายวิ่งเข้าไทย และกระจายไปอาเซียน พอวันนี้เจอเงินเฟ้อ ต้นทุนแพง น่าเป็นห่วงมากกับโครงการเหล่านี้ ถ้า EEC ไม่สำเร็จ อย่าหวังโครงการอื่น Southern เขาจะมา ที่ไปเวียดนาม คือไฮเทค คืออนาคต
ถนนทุกสายไปที่อินโดนีเซีย อย่าคิดว่าไม่สำคัญ ถ้าเราตกขอบ ตกจอเรดาร์ การลงทุนใหม่ๆ จะไม่มาที่เรา ถึงวันนี้รถไฟ ลาวเสร็จแล้ว อย่าอิจฉาเขา
นี่คือความเป็นจริงของประเทศไทย เมื่อมองไปข้างหน้า หลายอย่างก็ลำบาก ท่องเที่ยวก็ลำบาก ลงทุนก็ลำบาก ดัชนีความสามารถแข่งขันก็ตกฮวบ เราเคยประชุมหลายหน่วยงาน บี้กันทุกเดือน ปีเดียวหล่นลงมาหลายจุด ผมโทษการเมือง ที่ไม่สามารถพาพวกเราไปถึงฝั่งได้ คิดแล้วน่าเสียใจ น่าเสียดาย หนี้ทะลุเกิน 60% ของ GDP อะไรควรหยุดไม่หยุด เพราะมันใกล้เลือกตั้ง ถ้าดูให้ดี เศรษฐกิจน่าเป็นห่วง
การเมือง เรามีนายกรัฐมนตรี แต่คนไหนตัวจริงยังไม่รู้เลย ถ้าเป็นอย่างนี้จะทำไง ใครนำเรือลำนี้ หรือจะให้ข้าราชการนำ สิบกว่าปีให้หลัง ทำไม่ได้ ทำมากผิดมาก ไม่ทำเลยไม่ผิด เพราะงั้น คนดีนิ่งเสียตำลึงทอง ต้องอยู่ที่ผู้นำ ทุบโต๊ะเลย ไม่ช่วย ก็ยุบสภา เก็บไว้ทำไม
ฉะนั้น เมืองไทยจะไปไม่ไหว จะปล่อยแบบนี้ต่อไปไม่ได้ คนไทยมีความอดทนสูงมาก ไม่เคยบ่น ไม่โทษรัฐบาล แต่มองหาความหวังว่าใครจะช่วยเขา ถ้ามองแล้วไม่มีความหวัง พรุ่งนี้ไปตายเอาดาบหน้า อันนี้น่าเป็นห่วง
ยิ่งนานวันก็ยิ่งจน ไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ เป็นเหยื่อการยุยงปลุกปั่นแบ่งฝ่าย การปลุกปั่นยุยงให้บ้านเมืองแตกกัน ไม่มีใครได้ประโยชน์ ฉะนั้นการเป็นปฏิปักษ์กันเองในประเทศ ของชนในชาติ พรรคนี้ต้องพยายามไม่ให้เกิดขึ้น เอาคนดีๆ ทั้งใน และนอกพรรคมาร่วมกัน เพราะเรายังมีทรัพยากร ยังเข้มแข็ง แต่กรรมบังถ้าประชาชนยังไม่แข็งแรงพอ ถ้าประชาชนแข็งแรง จะทำตามอำเภอใจไม่ได้ ประชาชนจะใส่แบล็คลิสท์เลย
ผมถึงมาวันนี้เพื่อให้กำลังใจ และพาลูกชายมาให้เข้าใจว่า ไม่ได้ต้องการตำแหน่งนายกฯ ใครที่เข้ามา ต้องให้กำลังใจ เขาแบกรับทั้งประเทศ
2. อยากให้พรรคนี้พยายามเข้าไปกอบกู้และสร้างอนาคตของประเทศไทย ได้ยินว่า ท่านอุตตม ประกาศกองทุนสร้างอนาคตไทย ดี แบ่ง 2 ส่วน
ส่วนหนึ่งเยียวยาช่วยเหลือคนที่ลำบาก ไปดูเลยว่าจะช่วยเขาอย่างไร อย่าให้ล้มตาย โดยเฉพาะคนรากหญ้า บัตรสวัสดิการ ใครคิด ใครทำ ทำไมไม่ช่วยเหลือในสิ่งที่จำเป็นมากๆ แก๊ส ปุ๋ย คนแก่ ลูกหลานเขา สิ่งจำเป็นต้องร่วมใจคิด จะรู้ว่าเขาต้องการอะไร
ต้นตอเงินเฟ้อ คือ ราคาพลังงาน คนในปตท. รู้ดีว่า กระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ ในอดีตได้กำไรไปเป็นแสนล้าน ทำไมคุณไม่ปรับค่าการตลาด เพื่อประชาชนส่วนใหญ่ ถ้าคิดเป็นต้องเอากำไรสะสมในอดีตมาช่วยให้คนสบายขึ้น น้ำมันขึ้นทุกอย่างแพงหมด กระทรวงการคลังทำอะไรกันอยู่ ผู้บริหารปตท.
กองที่สอง อนาคตมีไหม ทำไม GDP ถึงหล่นลง มองย้อนไปตั้งแต่ปี 49 GDP ลงมาตลอด มันกระเตื้องไม่ขึ้น คนในภาคเกษตร มีส่วนใน GDP น้อย อำนาจซื้อจะมีอะไร
การจะปรับโครงสร้างหนี้ ผู้นำต้องทุ่ม สภาต้องช่วย นักการเมือง Support ให้ชาวนาได้หายใจ และปฏิรูปเกษตรอย่างรุนแรง ไม่งั้นสินค้าด้อยค่า ท่องเที่ยวก็กระจุกตัวแต่ในโรงแรม
ต้อง ปฏิรูปภาคท่องเที่ยว เอาคนที่เข้ามาไปเที่ยวชุมชน งบประมาณใส่ไปหมุนเวียนในท้องถิ่นในหมู่บ้าน ส่งเสริมให้เขารู้จักการรวมกลุ่ม ส่งเสริม Smart Farmer แต่เขาทำเองไม่ทัน ตรงนี้ต้องทำ เชื่อมต่อเทคโนโลยีกับการเกษตร เชื่อมโยงท่องเที่ยว วิสาหกิจชุมชน โอทอป ชีวิตเขาจะดีขึ้น ต้องให้เขาอยู่ได้ ความผิดไม่อยู่ที่การจำนำ การประกัน ความผิดอยู่ที่คอรัปชั่น เงินไปอยู่ที่อื่น ชาวนาไม่ได้ ชาวนารอใครจะมาช่วยเขา สิ่งเหล่านี้ ทำให้ชัดเจน
ดิจิทัล หัวใจคือคน ประเทศไหนพร้อม เขาก็ไปเวียดนาม อินเทอร์เน็ตต้องถูก ไม่ใช่แพง การประมูลเพื่อให้คนไทยทั้งหลายมีอินเทอร์เน็ตใช้ในราคาถูก บางหมู่บ้าน ชาวบ้านใช้ฟรี เพื่อให้ความรู้ไปถึงให้ได้ ให้มีการแข่งขัน พัฒนาการบริการ
ถ้าคุณมีอินเตอร์เน็ต คุณค้าขายได้ เรื่องของ Internet Transform Big Data ถ้าไม่มีเขาก็ไม่อยู่ เมืองไทย การพัฒนาไปไม่ถึง บ้านเมืองจะไปได้อย่างไร
กองทุนกองที่สอง ต้องไปยกเครื่อง ไปหนุน คนคุมอำนาจ ต้องเปลี่ยนทัศนคติ ต้องแข่งขัน บริการต้องดี คอรัปชั่นอย่าให้เกิด การเซ็ตราคากลาง สามารถทำได้ และใช้เป็นราคามาตรฐาน ถ้าประมูลต่ำกว่า แสดงว่ามีปัญหา ฝากไว้ การสร้างอนาคตเป็นสิ่งจำเป็น ขอให้เป็นธรรม
เมื่อวาน พรรคเสนอให้ผมเป็นประธานพรรค ผมสนับสนุนพรรคในทุกบทบาท และทุกรูปแบบ ติดตามมานาน อยากช่วยเหลือสนับสนุน เห็นใจน้องๆ ว่าการเมืองไม่ใช่ง่ายๆ
คนอย่างผม ไม่มีใจบันดาลแรง แต่มีแรงบันดาลใจ ที่จะช่วยเหลือ สร้างอนาคตให้ประเทศไทย อันนี้เป็นความจริงใจ ยิ่งมาแข่งขันเยอะยิ่งดี ความคิดต่างไม่ใช่ศัตรู ต้องรับฟังได้ มีความเคารพซึ่งกันและกัน
ความรู้ต่างจากปัญญา เป็นสิ่งที่เรียนมา แต่ปัญญาต้องอาศัยหลายคนที่รู้ซึ้งและตกผลึก บางอย่างในหลวงสอนนานแล้ว แต่เราไม่เข้าใจ “ประเทศต้องระเบิดจากภายใน” พอเจอวิกฤติ เข้าใจเลย ภายในอ่อนแอ ภายนอกมรสุมเข้ามา นี่คือต้องสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแรง
กระทรวงมหาดไทย สำคัญ การทำงานรวมศูนย์ ชาวบ้านต้องนั่งรอ สุดแต่รัฐบาล สภาพัฒน์จะให้ ไม่ใช่ แต่ละจังหวัดรู้ดีว่าต้องทำอะไร ไปทำเองได้เลย ไม่ต้องรอ งานบางอย่างต้องให้ท้องถิ่นเขา ดูการท่องเที่ยวทางใต้ มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภาคเหนือ ป่านนี้จะเป็นไง ต้องไปรออานิสงส์รถไฟมาเลย์ รึ ไม่ใช่
จังหวัดใหญ่ เศรษฐกิจใหญ่ ทำไม่ไหว จังหวัดนั้นเลือกตั้งเลย มีประเทศไหนที่ผู้ว่าฯ เป็นแค่ 2 ปี ผมจะสนับสนุนถ้าท่านรับปาก 3 เรื่อง
1.สร้างพรรคการเมืองที่ดี ขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์ และนโยบาย เป็นพรรคการเมืองเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แปลว่า ต้องมีช่องทางเกาะเกี่ยวกับประชาชน ให้มากำหนดร่วมวาระสำคัญไม่ว่าในหรือนอกสภา เพื่อให้เขามีส่วนร่วม ไม่ใช่การเมือง 4 วินาที แค่หย่อนบัตร อย่าแสวงอำนาจ ให้แสวงหานโยบาย องค์ความรู้ ปัญญา สามารถร่วมมือกับทุกพรรค นำเสนอสิ่งที่ควรจะเป็น เป็นกลางไม่มีศัตรู
2.เข้าไปกอบกู้ ระยะสั้น ระยะยาว ที่เสนอไว้
3.สำคัญที่สุด การเมือง ประชาธิปไตยดีที่สุด แต่กระบวนการประชาธิปไตยไม่ใช่อย่างที่วาดฝัน คุณจะเปลี่ยนแปลงบทบาทกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่คนๆหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องของผู้นำ พรรคการเมืองต้องร่วมมือสนับสนุน สามารถขายแนวความคิดได้ ให้เปลี่ยนแปลง ภายใต้มรสุม หัวใจอยู่ที่สภา มีนักกฎหมาย ศึกษารัฐธรรมนูญไทย"