สกัดกลยุทธ์ “พรรคพี่-พรรคน้อง” เพื่อไทย เปิดศึก ไทยสร้างไทย
พรรคไทยสร้างไทยในอีสาน ยังมีผู้สมัคร ส.ส.ประเภทเสียงดี ฐานแน่นอยู่อีกหลายเขต ซึ่งเป็นด่านสกัดแผนแลนด์สไลด์ของทักษิณ ดังนั้นในเขตสุ่มเสี่ยงที่พรรคคนกันเองอาจเจาะเข้ามาได้ เพื่อไทยจึงต้องประกาศชัดๆ เพื่อสกัดกลยุทธ์พรรคพี่ พรรคน้อง โหนกระแสเข้าสภาฯ แต่เนิ่นๆ
คล้อยหลัง “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย อย่างเป็นทางการ ฟากค่ายเพื่อไทยก็ไปขึ้นเวทีที่เชียงใหม่ ประกาศเสียงดัง ๆ เพื่อไทยไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง
บังเอิญวันที่ 10 ก.ย.2565 อีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้แถลงผลสำรวจในไตรมาส 3 เฉพาะหัวข้อ ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า อันดับ 1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 23.4 รองลงมา แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 21.1 และอันดับ 3 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 20.2
ย้อนไปดูผลสำรวจไตรมาส 2 คุณหญิงสุดารัตน์ ครองใจคนอีสานอันดับ 1 ร้อยละ25.8 (ลดลงจากไตรมาส 1 ที่ได้ร้อยละ 30.6) ตามมาด้วย แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 19.8 (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.7)
อย่างไรก็ตาม ในหัวข้อถ้ามีการเลือกตั้ง คนอีสานจะลงคะแนนให้พรรคใด พบว่า อันดับ 1 คือ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 35.9 อันดับ 2 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 19.8 และอันดับ 3พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 14.7
นับแต่ “สุดารัตน์” นำทัพไทยสร้างไทย ออกเดินสาย โดยเฉพาะที่ภาคอีสาน ก็มี ส.ส.เพื่อไทย เริ่มจุดประเด็นเพื่อไทย ไม่มีสาขา ไม่มีพรรคสำรอง
ทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ ยังกระโดดมาร่วมด้วย บ่อยครั้งที่คนแดนไกลมักใช้เวทีแคร์คลับเฮ้าส์ เหน็บแนมแกมประชดลูกน้องเก่า
อย่างเมื่อวันที่ 29 มี.ค.2565 ทักษิณหรือโทนี่ พูดชัดผ่านแคร์คลับเฮาส์ว่า “..ไปบอกคนในพื้นที่อีกว่า นี่เป็นพรรคสาขากัน เลือกใครก็เหมือนกันแหละ สับสนกันไปหมด”
หลังจากนั้น ในโซเชียลก็มีเอฟซีเพื่อไทย ปลุกกระแสเพื่อไทยไม่มีสาขา และโจมตีกลุ่มคุณหญิงหน่อยว่า ฉวยโอกาสโหนอุ๊งอิ๊ง
วันที่ 11 ก.ย.2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทยไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ส่วนพรรคที่มาแอบอ้างเป็นพรรคพี่พรรคน้องในการหาเสียงนั้น ทำให้ประชาชนสับสนไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือหรือภาคอีสาน เราประกาศชัดว่า เพื่อไทยไม่มีพรรคสาขา
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยิงหมัดตรงไปที่พรรคเกิดใหม่ ซึ่งบุคลากรในพรรคล้วนเป็นแม่ทัพขุนพลของทักษิณ แต่พวกเขาอยู่พรรคเดิมไม่ได้ เพราะเหตุอันใด ทักษิณและคุณหญิงพจมาน รู้ดีที่สุด
ประเมินภาพรวมที่สมรภูมิอีสาน “สุดารัตน์” พร้อมพลพรรคไทยสร้างไทย เป็นรองพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว แต่คุณหญิงหน่อย ก็ฝากความหวังไว้กับผู้สมัคร ส.ส.ที่มีฐานแน่น เสียงดีในพื้นที่
อย่างเช่น โชคเสมอ คำมุงคุณ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านดุง ที่ลงสนาม ส.ส.อุดรธานี เขต 3 และ หรั่ง ธุระพล นายก อบต.เซียงหวาง อ.เพ็ญ หลายสมัย ที่จะลง ส.ส.อุดรธานี เขต 4
สองคนนี้ เป็นนักการเมืองท้องถิ่น มีฐานเสียงเฉพาะตัว เคยสวมเสื้อภูมิใจไทย ก็ยังได้ 2 หมื่นคะแนน เที่ยวหน้าได้กระแสคุณหญิงหน่อยมาช่วย ก็ได้ลุ้นล้มแชมป์เก่า
กรณีเจ๊นาง-วันเพ็ญ เศรษฐรักษา อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 2 ที่มีฐานเสียงอยู่ในมือ 3 หมื่นกว่าคะแนน ย้ายจากภูมิใจไทย มาสวมเสื้อไทยสร้างไทย ก็มีโอกาสเอาชนะ ส.ส.กุ้ง-วีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ พรรคเพื่อไทย
ส.ส.กุ้ง วีรวัฒน์ สามี อรดี สุทธศรี อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ 5 สมัย มีจุดอ่อนคือ อายุเยอะ ไม่คล่องตัว หมดแพชชั่นในสายตาชาวบ้าน
พรรคไทยสร้างไทยในอีสาน ยังมีผู้สมัคร ส.ส.ประเภทเสียงดี ฐานแน่นอยู่อีกหลายเขต ซึ่งเป็นด่านสกัดแผนแลนด์สไลด์ของทักษิณ
ดังนั้นในเขตสุ่มเสี่ยงที่พรรคคนกันเองอาจเจาะเข้ามาได้ เพื่อไทยจึงต้องประกาศชัดๆ เพื่อสกัดกลยุทธ์พรรคพี่ พรรคน้อง โหนกระแสเข้าสภาฯ แต่เนิ่นๆ