2 กรรมการ ป.ป.ช.พ้นเก้าอี้ก่อนสิ้นปี 65 รับทำงานยาก แต่ไม่กระทบวินิจฉัยคดี

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2565 มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่าก่อนสิ้นปี 2565 จะมีกรรมการ ป.ป.ช. 2 ราย พ้นจากตำแหน่ง และในปีงบประมาณ 2565 มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสำนักงาน ป.ป.ช. อีก 11 ราย ต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากเกษียณราชการ ในวันที่ 1 ต.ค. 2565 

โดยกรณีกรรมการ ป.ป.ช. พ้นจากตำแหน่ง 2 ราย ได้แก่

1. พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ เนื่องจากมีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 16 ก.ย. 2565 ในทันที ไม่มีการรักษาการต่อ 
2. นายณรงค์ รัฐอัมฤต ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 9 ปีในต้นเดือน พ.ย. 2565 อย่างไรก็ดีกรณีพ้นตำแหน่งเพราะหมดวาระ ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช.กำหนดให้รักษาการต่อได้ จนกว่าจะมีการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.คนใหม่ภายใน 120 วัน อย่างไรก็ดีในวันที่ 25 ธ.ค. 2565 นายณรงค์จะอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ จะต้องพ้นจากตำแหน่งในทันทีเช่นกัน

ทั้ง 2 กรณีดังกล่าว สำนักงาน ป.ป.ช. ได้แจ้งไปยังวุฒิสภาเพื่อรับทราบ และดำเนินการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. คนใหม่ โดยคาดว่า ช่วงสัปดาห์หน้าวุฒิสภาจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนสรรหา

ส่วนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เป็นระดับรองเลขาธิการ และผู้ช่วยเลขาธิการ รวม 2 ราย ได้แก่ 

• นายพิเชฐ พุ่มพันธ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. 
• นายสุทธินันท์ สาริมาน ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ส่วนอีก 9 รายเป็นระดับผู้ตรวจราชการ และผู้อำนวยการสำนัก ได้แก่

• น.ส.นุชนาถ ด้วงสงฆ์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ
• นายสุกิจ บุญไชย ผู้ตรวจราชการสำนักงาน ป.ป.ช. 
• นาง สมพ ร ครุฑสาคร ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ 
• น.ส.จตุพร พูลแก้ว ผู้อำนวยการสถาบันการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สัญญา ธรรมศักดิ์ 
• นาย พงษ์ศักดิ์ โชติพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี 
• นางเสาวนีย์ พรอุปถัมภ์ ผู้อำนวยการกลุ่มตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 2 สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 1 
• นางภสมณฑ์ กมลวานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาด้านการยุติธรรมสถาบันการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สัญญา ธรรมศักดิ์ 
• นายวชิรชัย รัตนโชติ ผู้อำนวยการกลุ่มไต่สวนร่ำรวยผิดปกติสำนักไต่สวนร่ำรวยผิดปกติ 
• น.ส.สมศรี เปี่ยมจิตรเมตตา นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักบริหารงานกลาง

แหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ยอมรับว่าระหว่างดำเนินการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.คนใหม่เข้ามาแทนที่ว่างนี้ ทำให้การทำงานยากลำบากขึ้น เพราะงานมีจำนวนมาก ยอมรับว่าจะต้องมีงานค้าง แต่ไม่มีผลกระทบต่อการวินิจฉัยคดี เพราะกฎหมายปัจจุบันกำหนดว่าการวินิจฉัยชี้มูลความผิดนั้น หากกรรมการมีเสียงเท่ากันก็สามารถชี้มูลได้ โดยประธานกรรมการ ป.ป.ช.ไม่ต้องออกเสียงอีกครั้งเพื่อตัดสิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันกรรมการ ป.ป.ช. ปฏิบัติหน้าที่เหลือเพียง 8 ราย จากทั้งหมด 9 ราย เนื่องจาก พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง พ้นจากวาระการดำรงตำแหน่ง เนื่องจากอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2564 โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างวุฒิสภาดำเนินการสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งแทน