เวทีส่งท้าย "ซักฟอกฯไม่ลงมติ" ล็อคเป้า “3 ป.- ภูมิใจไทย"

เวทีส่งท้าย "ซักฟอกฯไม่ลงมติ"  ล็อคเป้า “3 ป.- ภูมิใจไทย"

การอภิปรายทั่วไป แบบ ไม่ลงมติ ที่ "พรรคฝ่ายค้าน" ตั้งเป้ายื่นญัตติในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯ พ.ย. นี้ ต้องจับตาการใช้เวทีเพื่อล็อคเป้า ลดความนิยม ของคู่แข่งทางการเมือง

        จับตาเปิดประชุมสภาฯ เทอมสุดท้าย ก่อนรูดม่าน ในเดือน พ.ย.65 “พรรคฝ่ายค้าน” จองกฐิน “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ผู้รอดคดี “นายกฯ 8 ปี” ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

 

        นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เตรียมระดมทีม เปิดอภิปรายทั่วไป ตามช่องของรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 กำหนดไว้ให้ ส.ส. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หรือ 48 คน จากจำนวนที่มี 478 คน เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ

เวทีส่งท้าย \"ซักฟอกฯไม่ลงมติ\"  ล็อคเป้า “3 ป.- ภูมิใจไทย\"

        แกนนำฝ่ายค้านทุกพรรค เห็นชอบด้วย เพราะมองว่าเป็น “โอกาสสุดท้าย” ที่จะแสดงผลงาน “ฝ่ายตรวจสอบ” การบริหารราชการแผ่นดินของ กลุ่ม 3 ป. พร้อมองคาพยพ ที่ถูกตั้งแท่นให้เป็น “คู่แข่งการเมือง” ในสมรภูมิเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง

 

        ทว่า ห้วงเวลาเปิดประชุมสภาฯ เดือน พ.ย. ตามไทม์ไลน์ของ 3 ป. ที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคยหลุดปากไว้(เมื่อกลางเดือน มี.ค.) ถึงจังหวะ “ยุบสภาฯ หลังประชุมเอเปค” อาจทำให้ฝ่ายค้านฝันสลาย เพราะเงื่อนไข "เวลา" ไม่ทันเปิดเวทีการแสดงสุดท้าย

เวทีส่งท้าย \"ซักฟอกฯไม่ลงมติ\"  ล็อคเป้า “3 ป.- ภูมิใจไทย\"

 

        ต่อเรื่องนี้ “สุทิน คลังแสง” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังไม่สิ้นหวัง โดยมองว่า แม้เวลาจะจวนเจียนกับไทม์ไลน์ ยุบสภาที่พี่ใหญ่ 3 ป. เคยบอกไว้ แต่เมื่อมองสีหน้าและแววตาของ “พล.อ.ประยุทธ์” แล้ว มั่นใจว่า “อยู่ยาวแน่นอน” และอาจลากยาวไปจนครบเทอม ถึง มี.ค.2566

 

        “ที่บอกจะยุบสภา หลังการประชุมเอเปค ช่วง 14 - 19 พ.ย. ผมไม่กังวลว่าจะกระทบต่อการยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติของพรรคฝ่ายค้าน เพราะคำที่บอกจะยุบสภานั้น ไม่มีอะไรแน่นอน และเชื่อว่าจะมีเวลาให้ฝ่ายค้านได้อภิปราย เพราะด้วยเงื่อนไขของข้อบังคับการประชุมสภาฯที่กำหนดขั้นตอนไว้”

 

        ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ “องคาพยพ 3 ป.” ไม่ได้เป็นต่อ ประธานวิปฝ่ายค้านประเมินว่า การยุบสภาไม่เกิดขึ้นเร็ว เพราะ

  เวทีส่งท้าย \"ซักฟอกฯไม่ลงมติ\"  ล็อคเป้า “3 ป.- ภูมิใจไทย\"

        1. ประยุทธ์ หวงอำนาจ และหากอยากไปเร็วก่อนครบวาระต้อง ต้องแสดงสปิริตตั้งแต่ 23 ส.ค.

 

        2. ประยุทธ์ ไม่ได้เปรียบทางการเมือง และพรรคพลังประชารัฐ คะแนนนิยมลดฮวบ หากเลือกตั้งเร็ว แพ้แน่นอน สู้ลุยอยู่จนครบเทอม เพื่อให้ฝั่งตนกุมอำนาจสูงสุดไว้น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

 

        ส่วนสถานการณ์นอกสภาฯ การชุมนุมนับหนึ่งประเทศไทย หยุดอำนาจ 3 ป. ของ “คณะหลอมรวมประชาชน” รวมถึงกลุ่มต่างๆ อาจทำให้รัฐบาลเดินลำบาก แต่เมื่อเทียบกับมือที่กุมอำนาจไว้ เชื่อว่าจะหาทางไป เพื่อเป้าหมายอยู่ยาว

 

        “ดังนั้นเวทีฝ่ายค้าน ที่จะขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล เพื่อซักถามและเสนอแนะปัญหากับรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เชื่อว่ามีเวลาเพียงพอ โดยเป้าหมายอภิปรายครั้งนี้ เพื่อให้รัฐบาลทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนได้ประโยชน์ แต่หากจะทำให้รัฐบาลเสียคะแนนนิยม ถือเป็นผลพลอยได้"

 

 

        ที่สำคัญ หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยให้นับวาระ 8 ปีการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 6 เม.ย.2560 ดังนั้นหากอนาคตได้กลับสู่ตำแหน่ง “นายกฯ” อีกครั้ง จะเหลือเวลาไม่เกินครึ่งเทอม ก็ต้องวัดใจว่า “ประยุทธ์” จะยอมหยุดหรือไม่

 

        ดังนั้นการอภิปรายทั่วไป ในสภาฯ จึงเป็นเวทีใหญ่สุดท้าย ที่ “ฝ่ายค้าน” จะใช้แก้เกม “ประยุทธ์อยู่ยาว” คู่ขนานกับการเดินหมากการเมืองเพื่อเอาชนะในพื้นที่เลือกตั้ง

เวทีส่งท้าย \"ซักฟอกฯไม่ลงมติ\"  ล็อคเป้า “3 ป.- ภูมิใจไทย\"

        ล่าสุด ประเด็นที่ “ฝ่ายค้าน” เตรียมทำญัตติ เพื่อซักถามปัญหาและข้อเท็จจริง รวมถึงเสนอแนะการแก้ปัญหานั้น ถูกเกริ่นออกมาแล้วจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้ง ประเด็นปัญหาที่ต่อยอดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ที่สืบเนื่องมาจากการบริหารราชการของรัฐบาลที่ล้มเหลว และพร้อมตอกย้ำถึงปัญหาโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่พบประเด็นเอื้อประโยชน์ให้กับบางพรรคการเมือง และเชื่อว่าจะหวังผลสูงสุดในการเลือกตั้งครั้งหน้า

 

        ดังนั้นเป้าหมายสูงสุด จึงถูกวางโจทย์ และล็อคเป้าไปที่ “3 ป.” และ “ภูมิใจไทย" ในเวทีการแสดงส่งท้ายของฝ่ายค้าน.