“ศรีสุวรรณ” แจ้งความเอาผิดคนชกหน้า อ้างประชาธิปไตยกลับใช้ความรุนแรง

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2565 นายศรีสุวรรณ จรรยา ให้สัมภาษณ์ภายหลังถูกนายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ “ลุงศักดิ์” แนวร่วมคนเสื้อแดงทำร้ายร่างกายบริเวณหน้าอาคารตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากไปร้องเรียน บก.ปอท.ขอให้ตรวจสอบ “เดี่ยว 13” ของ “โน้ส” อุดม แต้พานิช ว่าเป็นการกระทำเข้าข่ายยุยงให้คนกระทำความผิดหรือไม่ ว่า เบื้องต้นให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงเหตุการณ์ถูกบุกทำร้ายร่างกาย โดยบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและปลายคาง แต่ไม่เจ็บมากเท่ากับเจ็บใจ 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ยืนยันไม่เคยรู้จักกับคู่กรณีหรือเคยมีปัญหาขัดแย้งหรือบาดหมางกันมาก่อน ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเป็นสื่อมวลชน เพราะเห็นตั้งคำถามสอบถาม ก่อนจะเอียงตัวเดินเข้ามาประชิด จึงเห็นผิดสังเกตและป้องกันตัวได้ทัน โดยพฤติการณ์เห็นชัดว่า วางแผนมาเป็นอย่างดี มีทีมมาไลฟ์สด และหลังเกิดเหตุมีคนส่งลิงก์มาให้ดู จึงรู้ว่าหลังก่อเหตุเสร็จก็ไปไลฟ์สด ประกาศรับเงินสนับสนุนอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องคดี เบื้องต้นลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วที่ บก.ป. หลังจากนี้จะเดินทางไป สน.พหลโยธิน เพื่อขอใบส่งตัวตรวจร่างกาย นำมาประกอบเป็นพยานหลักฐานเอาผิดคู่กรณีในข้อหา ทำร้ายร่างกาย ภายในวันนี้

นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า พวกเขาบอกว่าเป็นกลุ่มประชาธิปไตย แต่กลับไปทำร้ายร่างกายคนอื่น การกระทำเช่นนี้มันช่างย้อนแย้ง เช่นเดียวกับการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ก็มีความรุนแรงมาโดยตลอด โดยเฉพาะกลุ่มม็อบที่ทำลายทรัพย์สิน สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยหลังจากนี้จะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น และพาเพื่อนไปด้วย ทั้งนี้ ยอมรับว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงถือเป็นบทเรียน

“ยืนยันคนอย่างศรีสุวรรณไม่มีคำว่าท้อ จะทำหน้าที่ต่อไป ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ส่วนเรื่องเดี่ยว 13 ของ โน้ส อุดม ไม่จบแค่นี้ ยังมีอีกหลายชอต ที่ต้องตามต่อ ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่อยากเอาเรื่องกรณีเดี่ยว 13 นั้น ก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ในส่วนของตนยังคงดำเนินการต่อไป เพื่อความยุติธรรมของสังคม” นายศรีสุวรรณ กล่าว