ศึกชิงนครนาคราช ท้าพิสูจน์ “บุรีรัมย์โมเดล” 

ศึกชิงนครนาคราช ท้าพิสูจน์ “บุรีรัมย์โมเดล” 

ในทางการเมือง จ.บึงกาฬคือ เป้าหมายตอกเสาเข็มของภูมิใจไทย เพราะนับตั้งแต่ “แว่นฟ้า ทองศรี” ในนามกลุ่มนครนาคา ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.บึงกาฬ ครูใหญ่เนวิน ได้ให้ทรงศักดิ์ ใช้แผนบุรีรัมย์โมเดล พัฒนาบึงกาฬในทุกด้าน เพื่อปักธงสีน้ำเงินในเวทีการเมืองระดับชาติ

เปิดโฉมนครนาคราช..บึงกาฬ ด้วยสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 เชื่อมสองฝั่งโขง เชื่อม จ.บึงกาฬ และแขวงบอลิคำไซ

วันที่ 28 ต.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และท่านพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว ได้เข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 

อีก 3 ปีข้างหน้า สะพานข้ามโขงแห่งนี้จะสร้างเสร็จ และเปิดใช้เป็นเส้นทางคมนาคมเชื่อมไทย ลาวและเวียดนาม บึงกาฬ จังหวัดชายโขงก็จะเติบโตแบบก้าวกระโดด

จะว่าไปแล้ว โครงการสร้างสะพานข้ามโขงแห่งที่ 5 พรรคภูมิใจไทยที่ได้ดูแลกระทรวงคมนาคม ตั้งใจให้เป็นผลงานชิ้นโบแดง ถึงขั้นส่ง ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย มาเกาะติดโครงการนี้อย่างใกล้ชิด

ในทางการเมือง จ.บึงกาฬคือ เป้าหมายตอกเสาเข็มของภูมิใจไทย เพราะนับตั้งแต่ “แว่นฟ้า ทองศรี” ในนามกลุ่มนครนาคา ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.บึงกาฬ ครูใหญ่เนวิน ได้ให้ทรงศักดิ์ ใช้แผนบุรีรัมย์โมเดล พัฒนาบึงกาฬในทุกด้าน เพื่อปักธงสีน้ำเงินในเวทีการเมืองระดับชาติ

แว่นฟ้า ทองศรี ภริยา รมช.ทรงศักดิ์ เป็นชาวบึงกาฬโดยกำเนิด และนามสกุลเดิมของเธอคือ อนันตทัศน์ เป็นตระกูลคหบดีเก่าแก่ของบึงกาฬ

คอเพลงเพื่อชีวิตคงรู้จัก สีเผือก คนด่านเกวียน ที่มีจริงว่า อิศรา อนันตทัศน์ หรือสำรอง อนันตทัศน์ ชาวบึงกาฬ (สมัยโน้น อ.บึงกาฬ ยังขึ้นกับ จ.หนองคาย) ตอนหลัง สีเผือกย้ายมาเรียนหนังสือต่อที่นครราชสีมา และใช้ชีวิตอยู่ที่ด่านเกวียน

สีเผือกเป็นพี่ชายของแว่นฟ้า ทองศรี หรือแว่นฟ้า อนันตทัศน์ ได้รู้จักกับเสี่ยป้อม ทรงศักดิ์ หนุ่มบุรีรัมย์ จึงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว

ปลายปี 2563 การเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ เป็นการแข่งขันที่เข้มข้นมาก เพราะผู้สมัครนายก อบจ.แต่ละคน ล้วนเป็นตัวแทนพรรคการเมืองใหญ่

แว่นฟ้า ในนามกลุ่มนครนาคา ต้องแข่งกับ นิพนธ์ คนขยัน อดีตนายก อบจ.บึงกาฬ กลุ่มไทบึงกาฬ ครองตำแหน่งนายก อบจ.มานานถึง 9 ปี

นอกจากนี้ ยังมี อภิเดช รักษาโสม ลูกเขยของเชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์ ส.ส.บึงกาฬ เขต 1 ที่ลงสนามในนามพรรคเพื่อไทย และภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น จากคณะก้าวหน้า ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ แว่นฟ้า ทองศรี ได้ 105,478 คะแนน ,ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ได้ 34,917 คะแนน ,นิพนธ์ คนขยัน อดีตนายก อบจ.บึงกาฬ ได้ 26,274 คะแนน และอภิเดช รักษาโสม พรรคเพื่อไทย ได้ 15,001 คะแนน

แทบไม่น่าเชื่อ แว่นฟ้าโกยแต้มมาได้ถึงแสนกว่าคะแนน ขณะที่อภิเดช ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ได้แค่หมื่นเศษ

ชัยชนะของ แว่นฟ้า ทองศรี คู่ชีวิจ มท.3 ทรงศรี ทองศรี รมช.มหาดไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นชัยชนะของพรรคภูมิใจไทย 

ย้อนไปมองสนามการเลือกตั้ง ส.ส.บึงกาฬ พรรคภูมิใจไทย หวังจะปักธงในบึงกาฬ มาตั้งการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2554 แต่ยังทำไม่สำเร็จ

ต้นปี 2554 เสี่ยป้อม ทรงศักดิ์ ทองศรี ได้มาบัญชาการสร้างศูนย์อบรมพัฒนาบุคลากรทางการเมือง ในรีสอร์ตของภรรยา-แว่นฟ้า ที่ อ.เมืองบึงกาฬ

เวลานั้น เสี่ยป้อม สวมหัวโขน รมช.คมนาคม ได้จัดอีเวนท์เปิดตัว “แว่นฟ้า” ทั้งจัดมวยชิงแชมป์โลก ,ฟรีคอนเสิร์ตลูกทุ่ง และจำหน่ายสินค้าโอทอป  

กลางปีเดียวกัน พรรคภูมิใจไทย ส่งแว่นฟ้าลงสนาม ส.ส.เขต 1 บึงกาฬ แต่ต้านกระแสเสื้อแดงแห่ยิ่งลักษณ์ไม่ไหว แว่นฟ้าพ่ายยับ

ขยับมาถึงการเลือกตั้ง 2562 แว่นฟ้า ทองศรี สวมเสื้อภูมิใจไทย ลงสนามเขต 1 บึงกาฬ แต่ก็พ่ายแชมป์เก่า-เชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์ พรรคเพื่อไทย โดยเชิดพงศ์ ได้ 36,117 คะแนน ส่วนแว่นฟ้า ได้ 30,926 คะแนน โดยผลคะแนนของยาใจทรงศักดิ์ ดีขึ้นกว่าครั้งแรก

สำหรับการเลือกตั้งสมัยหน้า จ.บึงกาฬ เพิ่มจากเดิม 2 เขต เป็น 3 เขต และมีการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 3 เขตแล้วคือ เขต 1 เชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์ ส.ส.บึงกาฬ ,เขต 2 ภัทรพร ราชป้องขันธ์ ลูกสาวเชิดพงศ์ และเขต 3 ไตรรงค์ ติธรรม ส.ส.บึงกาฬ

บึงกาฬ เพิ่งแยกตัวออกมาจาก จ.หนองคาย ได้ไม่นาน ผ่านการเลือกตั้ง ส.ส.บึงกาฬ มาแล้ว 2 สมัย พรรคเพื่อไทย ชนะยกจังหวัดทั้ง 2 หน

การเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในปีหน้า ทรงศักดิ์ ทองศรี ตั้งเป้า ส.ส.บึงกาฬ โดยขอจองเก้าอี้ ส.ส. 2 ที่นั่งจาก 3 ที่นั่ง และมีการวางตัวผู้สมัครไว้ครบ 3 เขตเรียบร้อยแล้ว

ครูใหญ่บุรีรัมย์ เนวิน ชิดชอบ มั่นใจต้นทุนแสนคะแนนจาก แว่นฟ้า ทองศรี ในการเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ จะทำให้ยุทธการตอกเสาเข็ม “นครนาคราช” บรรลุเป้าหมาย