ไทยเจ้าภาพประชุมใหญ่ “ผู้ตรวจฯอาเซียน” พัฒนาขีดความสามารถกฎหมาย

ไทยเจ้าภาพประชุมใหญ่ “ผู้ตรวจฯอาเซียน” พัฒนาขีดความสามารถกฎหมาย

“ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดประชุมใหญ่ “ผู้ตรวจฯอาเชียน” SEAOF Meeting พัฒนาขีดความสามารถใช้สิทธิทางกฎหมาย-พัฒนากลไกจัดการเรื่องร้องเรียนแบบบูรณาการ

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่เวทีผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 1 (Southeast Asian Ombudsman Forum Meeting หรือ SEAOF Meeting) ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอทเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินไทย และในฐานะประธาน SEAOF เผยว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมทางการครั้งแรกหลังจากการก่อตั้งเวทีผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นเวทีความร่วมมืออิสระของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินและหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนสาธารณะในภูมิภาคอาเซียน เพื่อร่วมกันพัฒนาขีดความสามารถในการใช้สิทธิทางกฎหมายและพัฒนากลไกการจัดการเรื่องร้องเรียนแบบบูรณาการภายในเขตอำนาจของหน่วยงานที่เป็นสมาชิก โดยประเทศ 3 สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง ได้แก่ คณะผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทย คณะผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นำโดย นายโมฮัมหมัด นาจิห์ (Mr. Mokhammad Najih) ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ นำโดย นายอัซรีมัน ราฟานัน (Mr. Asryman Rafanan) ผู้ช่วยผู้ตรวจการแผ่นดินประจำสำนักนิติการ จะร่วมกันรับรองข้อกำหนดแนบท้ายบันทึกการแสดงเจตนารมณ์ และหารือถึงกรอบวิสัยทัศน์ปี 2566 – 2567 (ค.ศ. 2023 – 2024) ปฏิญญากรุงเทพฯ SEAOF รวมทั้งทิศทางความร่วมมือในด้านต่าง ๆ 

นอกจากนี้ ยังมีการจัดประชุม SEAOF+ (SEAOF พลัส) ร่วมกับองค์กรผู้ตรวจการแผ่นดินหรือหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนสาธารณะอื่น ๆ ได้แก่ ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต สำนักรับเรื่องร้องเรียนภาครัฐแห่งประเทศมาเลเซีย และผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งประเทศนิวซีแลนด์ รวมถึงองค์กรที่ไม่ใช่องค์กรผู้ตรวจการแผ่นดิน เช่น UNODC ประเทศไทย และมูลนิธิฟรีดิช นอมันน์ ประเทศไทย เพื่อขยายขอบเขตความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของ SEAOF ให้มีขีดความสามารถเป็นกลไกสร้างความเป็นธรรมและจัดการเรื่องร้องเรียนอย่างมuประสิทธิภาพอีกด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในวันพุธที่ 2 พฤศจิกายนนี้ จะมีพิธีส่งมอบตำแหน่งประธาน SEAOF โดยประธานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทยจะส่งมอบให้แก่ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียดำรงตำแหน่งในวาระต่อไป และทั้ง 3 ประเทศจะร่วมกันประกาศปฏิญญากรุงเทพ 2022 (SEAOF Bangkok Declaration 2022) พร้อมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแสดงเจตนารมณ์ นอกจากนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรไทยจะร่วมลงนาม MOU กับผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ทำความร่วมมือแบบทวิภาคีเพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองพลเมืองของทั้งสองประเทศต่อไป