คณะก้าวหน้าขอ ปชช.ช่วยกันจับตาร่าง รธน. “ปลดล็อกท้องถิ่น” จ่อเข้าสภา

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 คณะก้าวหน้า เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งรณรงค์ผ่านแคมเปญ “ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น” ตอนนี้ผ่านขั้นตอนรับฟังความเห็นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะบรรจุวาระเข้าสู่รัฐสภา ที่จะเปิดประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 2/2565 ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของประธานรัฐสภาและวิปสามฝ่าย (ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และฝ่ายวุฒิสภา)

ตลอดการรณรงค์ 3 เดือนเต็ม (เมษายน-มิถุนายน 2565) เราได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศร่วมลงชื่อกว่า 80,772 ชื่อ ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ 50,000 ชื่อตามที่กฎหมายกำหนด ก่อนที่เวลาต่อมา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะตรวจสอบรายชื่อ คงเหลือผู้มีสิทธิเข้าชื่อและมีเอกสารหลักฐานครบถ้วนทั้งหมด 76,591 รายชื่อ

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความพยายามเพิ่มการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนมากขึ้นตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 ต่อมารัฐธรรมนูญ 2550 ไปไกลขึ้น คือประชาชนเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ นี่คือความก้าวหน้าที่หลายประเทศไม่มี แต่ความก้าวหน้าที่ปรากฏบนลายลักษณ์อักษรจะเกิดขึ้นจริงได้ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของสมาชิกรัฐสภา แต่ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันไม่เคยมีสักครั้งที่รัฐสภาจะพิจารณารับหลักการร่างของประชาชน

แต่พวกเราประชาชนอย่าเพิ่งสิ้นหวัง พวกเรายังมีลมหายใจ ยังมีความคิด และยังมีกำลัง อีกทั้งเรื่องการกระจายอำนาจเป็นประโยชน์กับภาพใหญ่ของประเทศและประชาชน ไม่ได้ไปขัดผลประโยชน์สมาชิกรัฐสภา และที่ผ่านมา สมาชิกรัฐสภา พรรคการเมืองก็พูดสนับสนุนการกระจายอำนาจเสมอมา

ดังนั้นประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญตัวจริง ต้องเดินหน้าต่อไป  ต่อสู้ให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้สำเร็จให้ได้ ช่วยกันจับตาการพิจารณาของรัฐสภาและส่งเสียงเรียกร้องไปยังสมาชิกรัฐสภาให้ลงมติรับหลักการเท่านั้น !!!

สรุปอีกครั้ง ร่าง “ปลดล็อกท้องถิ่น” เสนออะไร

เราต้องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น มีสาระสำคัญคือการเสนอ 4 ปลดล็อก

• ปลดล็อกงาน เพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่นเป็นหลักในการจัดทำบริการสาธารณะ
• ปลดล็อกเงิน เพิ่มงบประมาณ การหารายได้ใหม่ของท้องถิ่น
• ปลดล็อกคน เพิ่มความดึงดูดของงานการเมือง ราชการในท้องถิ่น
• ปลดล็อกอำนาจ เพิ่มอำนาจประชาชน คืนอำนาจสู่ท้องถิ่น

นอกจากนี้หลักการที่สำคัญในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นฉบับนี้ คือเราจะเปลี่ยนวิธีมอง กลับมุมมองวิธีคิด โดยการเขียนให้ท้องถิ่นทำได้ “ทุกอย่าง” (เรียกหลักการนี้ในภาษาอังกฤษว่า General competence) ยกเว้นเพียงบางเรื่องที่ทำไม่ได้ (เช่น การทหาร ระบบเงินตรา) เพื่อยืนยันหลักการว่า อปท. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่ ต้องมีอำนาจเต็มในการจัดบริการสาธารณะในท้องถิ่นทุกเรื่อง และยืนยันว่า ท้องถิ่นเป็นหน่วยงานที่ต้อง “ทำก่อน” หน่วยงานอื่นๆ หากเกิดปัญหาเกี่ยวกับบริการสาธารณะทั้งหมดในพื้นที่ (เช่น ถนนพัง ไฟฟ้าดับ ขนส่งสาธารณะห่วย) ประชาชนก็จะได้รู้แน่ชัดว่าความรับผิดชอบเป็นของหน่วยงานใด เขาต้องไปติดต่อใครเพื่อคลี่คลายความทุกข์ร้อนเหล่านั้น