“นรุตม์ชัย”จี้รัฐบาลทบทวนควบคุม”กัญชา”ใหม่-ห่วงเยาวชนใช้ผิดทาง
“นรุตม์ชัย”จี้รัฐบาลทบทวนควบคุม”กัญชา”ใหม่-ห่วงเยาวชนใช้ผิดทาง เข้าใกล้วงจรยาเสพติด แนะปลดล็อกตามขั้นตอน ไม่ต้องเร่งรีบ เหน็บที่ประชุม ครม.ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ แล้วประชาชนจะถามใคร
นายนรุตม์ชัย บุนนาค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตยานนาวา บางคอแหลม กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีสังคมวิพากษ์วิจารณ์การควบคุมกัญชา จนเกิดการเรียกร้องให้กลับไปเป็นยาเสพติดว่า ตั้งแต่มีการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 ตนเห็นว่า สังคมเกิดการใช้กัญชาอย่างเป็นวงกว้าง โดยเห็นได้จากในโซเชียลมีเดีย ที่มีการสร้างค่านิยมใหม่ ด้วยการโชว์ใช้กัญชา เพื่อสันทนาการ
รวมไปถึงมีการโพสต์รูปต้นกัญชา แข่งกันอย่างคึกคัก ซึ่งตนมองว่า เป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ของการปลดล็อกเพื่อทางการแพทย์ ที่ตนก็สนับสุนน แต่ไม่เห็นด้วยกับการทำให้เกิดสูญญากาศ จนเยาวชนเริ่มมีการนำไปใช้เพื่อสันทนาการ โดยจากการลงพื้นที่ เขตยานนาวา บางคอแหลม ผมได้รับฟังข้อห่วงใยของผู้ใหญ่ในชุมชน ที่ห่วงเยาวชน จะเข้าใจผิด แล้วใช้กัญชาในทางที่ผิด
เนื่องจากขณะนี้ คนยังไม่ค่อยเข้าใจว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ ซึ่งหลายบ้านก็เริ่มปลูกกัญชา ตามกระแสด้วย อาจทำให้เยาวชน ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง เข้าใกล้วงจรยาเสพติดมากขึ้น เพราะอาจจะมีบางคนแค่ทดลองใช้กัญชา แล้วเริ่มอยากทดลองใช้ยาเสพติดด้วย ซึ่งจะทำให้กัญชา เสมือนเป็นประตูทำให้เยาวชนเข้าใกล้ยาเสพติดง่ายขึ้น และตั้งแต่ปลดล็อก ก็ยังพบเยาวชนเข้าโรงพยาบาล เนื่องจากใช้กัญชา ไปแล้วหลายราย
“ข้อห่วงใยของคนในพื้นที่ ผมก็จะช่วยเป็นกระบอกเสียง ให้รัฐบาล ทบทวนการควบคุมกัญชาใหม่ เพราะขนาดในที่ประชุมครม.เมื่อวาน ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องการควบคุมเลย” นายนรุตม์ชัย กล่าว
นายนรุตม์ชัย กล่าวอีกว่า เรื่องการควบคุมกัญชา ตนได้รับทราบแนวทางของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ที่ได้สนับสนุนทางการแพทย์ แต่ไม่เห็นด้วย ที่ยังปล่อยให้ ไม่มีกฎหมายออกมาควบคุมที่ชัดเจน ซึ่งจะเป็นช่องว่าง ให้กลุ่มเยาวชน เอาไปใช้ในทางที่ผิด
“รัฐบาล ควรหันกลับมาทบทวนเรื่องนี้ใหม่ เพราะในวงประชุมครม.ในฐานะผู้ออกนโยบาย ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ จนต้องเรียก กรมการแพทย์แผนไทยฯมาอธิบาย แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน แล้วประชาชน จะเข้าใจได้อย่างไร โดยรัฐบาล ควรทำตามขั้นตอนในการปลดล็อกกัญชา และรับฟังเสียงห่วงใยของประชาชน ไม่ใช่เร่งรีบทำ เพื่อหวังอะไรบางอย่างในอนาคต ซึ่งเราควรคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง”