ปชป.อัด "พงศ์สินธุ์" หยุดทำลายพรรค.หวังผลสร้างกระแส ยันให้ความยุติธรรม

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ในนามพรรค ให้ข่าวว่าเตรียมยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ โดยให้เหตุผลว่าผิดหวังที่พรรคไม่ส่งสมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ครั้งต่อไปในนามพรรคฯ นั้น

ตนอยากให้นายพงศ์สินธุ์พิจารณา ทบทวน ตระหนักถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคและอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพรรคได้ให้การสนับสนุน ส่งเสริม ช่วยเหลือนายพงศ์สินธุ์ อย่างเต็มที่ และอยากให้นายพงศ์สินธุ์เคารพกติกาซึ่งพรรคก็ได้ใช้มาตรฐานเดียวกันในการคัดเลือกผู้สมัครในทุกพื้นที่

ในวันนี้เมื่อนายพงศ์สินธุ์ตัดสินใจหันหลังเดินออกจากพรรคตามเหตุผลที่ยกขึ้นมากล่าวอ้าง ก็ควรจากกันด้วยดีและนึกถึงเรื่องราวดีดีที่เคยร่วมทำกันมา การพยายามออกมาให้ข่าวเพื่อทำลายพรรคที่เคยสนับสนุนตนเองอย่างต่อเนื่องนั้นจึงถือว่าไม่ใช่วิถีของสุภาพชน และที่สำคัญข้อมูลที่นายพงศ์สินธุ์นำมากล่าวอ้างก็ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง

นางดรุณวรรณยังกล่าวต่อด้วยว่า หากนายพงศ์สินธุ์ อยากฉายแสงโดดเด่นบนเส้นทางการเมืองในฐานะว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคใดก็ตาม ต้องเริ่มต้นจากการพูดความจริงและเน้นนำเสนอคุณสมบัติที่โดดเด่นของตัวเองรวมถึงนโยบายที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่าการสร้างกระแสโจมตีพรรคเดิมเพื่อให้มีพื้นที่ข่าวเรียกคะแนนจากพรรคใหม่ที่ตนเองกำลังจะย้ายไปสังกัด

“พรรคยืนยันว่า มีความเที่ยงตรง ยุติธรรม ยึดมั่นในหลักการในการทำงานการเมืองมาโดยตลอด อยากให้คุณพงศ์สินธุ์ทำงานการเมืองแบบมืออาชีพเน้นหาคะแนนกับประชาชน มากกว่าตีหน้าเศร้า เล่าเรื่องไม่จริง หวังโกยคะแนนจากพรรคใหม่ที่กำลังจะไปสังกัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน และไม่เกิดประประโยชน์กับทุกฝ่ายโดยเฉพาะตัวนายพงศ์สินธุ์เองที่อาจถูกมองว่าเป็นได้แค่เพียงพวกขี้แพ้ชวนตี” นางดรุณวรรณ กล่าว

 นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.คณะกรรมการประสานงานองค์กรเครือข่ายภายนอกพรรค และคณะกรรมการกิจการสาขา ตัวแทนจังหวัดและสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พฤติกรรมเช่นนี้ในการจากบ้านเดิมไปสู่ที่แห่งใหม่ น่าจะมีการประสานมาเป็นระยะๆ อยู่แล้ว

ดังนั้นหากมาใช้วิธีจากลาบ้านเดิมที่มีบุญคุณ เพื่อสร้างเสริมให้เครือข่ายของผู้ที่ต้องผิดหวังจากระบบการคัดเลือกบุคคลที่ดีที่สุดตามกฎเกณฑ์ ขั้นตอนการคัดสรรและขบวนการประชาธิปไตยของพรรค โดยหวังได้รับความเห็นใจจากประชาชนในเขต ในพื้นที่ที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์มายาวนานนั้น โดยเฉพาะขั้นตอนหรือมารยาทที่จะจากลา ก็น่าจะมีหลายวิธีการบนพื้นฐานมารยาท โดยไม่จำเป็นต้องทำร้ายบ้านเดิมและสมาชิกของบ้านเก่าที่ยังคงอยู่และยังยึดมั่นในอุดมการณ์ของบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นสถาบันทางการเมืองหลักของชาติมา 77 ปี

ขณะเดียวกันพี่ชายทั้งสองท่าน ซึ่งเป็นอดีต ส.ส. กับอดีตนายก อบจ. ที่ยังรับโทษด้วยข้อหาทุจริตการเลือกตั้ง ไม่สามารถจะมาดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ พรรคจึงจำเป็นต้องหาบุคคลที่ดีที่สุดเพื่อลงสมัคร โดยพรรคก็ได้ให้โอกาสในการลงเลือกตั้งซ่อมไปแล้วด้วย และพี่น้องประชาชนก็ได้ตัดสินไปแล้วเช่นกันดังผลการเลือกตั้งซ่อมออกมาเป็นที่ประจักษ์

ดังนั้นตนซึ่งเป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งมา 25 ปี และดูแลรับผิดชอบในส่วนกิจการสาขา สมาชิก และตัวแทนจังหวัดของพรรค ขอวิงวอนให้จากกันบนพื้นฐานมารยาทแห่งวิญญูชน และตนยังเชื่อมั่นว่าหลายท่านส่วนใหญ่ในตระกูลเสนพงศ์ ยังคงรักพรรคและต้องการรักษามารยาทที่ดีงามนี้ไว้ต่อไป