เส้นตาย“บิ๊กเนม”ซบ“รทสช.” กลาง ม.ค. 66 ต้องชัดเจน

ชัดเจนแล้วว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม เข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์หนึ่ง ส่วนจะมี “บิ๊กเนม” คนใดพ่วงมาเป็นรายชื่อสำรองหรือไม่ ทางพรรครทสช.อาจจะต้องประเมินสถานการณ์กันก่อน

เนื่องจากวาระของ “ประยุทธ์” แม้จะยังไม่ชัวร์ว่าจะครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดเอาไว้ในช่วงวันใด แต่คงไม่อยู่ยาวเกิน 2 ปีอย่างแน่นอน

เกมชิงประกาศทิศทางไปต่อของ “ประยุทธ์” หักเหลี่ยมความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ลูกหาบออกมาสนับสนุนนายให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว

เมื่อ “ประยุทธ์” ชัดเจน ความเคลื่อนไหวภายในอารีย์ซอย 5 ซึ่งเป็นที่ทำการของพรรครทสช.คึกคักขึ้นทันใด “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เลขาธิการรทสช. เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคทันที เพื่อเตรียมความพร้อมเทียบเชิญ “ประยุทธ์” อย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกันบรรดา “บิ๊กเนม-ส.ส.” ที่ยังกั๊กอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ จะได้แสดงความชัดเจนเช่นกัน เนื่องจากระยะเวลาครบเทอมของรัฐบาลเหลือไม่เกิน 3 เดือน หากยังแทงกั๊กจะส่งผลเสียต่อการทำพื้นที่ชิงเก้าอี้ ส.ส.
 

โฟกัสหลักจับตาความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กเนม พปชร.” ที่เคยอยู่เคียงข้าง “ประยุทธ์” สู้รบปรบมือกับ “ทีมป่ารอยต่อฯ” ในช่วงที่ “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ปฏิบัติการก่อกบฏล้ม “ประยุทธ์”

“กลุ่มเพชรบูรณ์” ภายใต้การนำของ “สันติ พรัอมพัฒน์” รมช.คลัง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หากย้ายมาร่วม “ขั้วประยุทธ์” ปักหลักที่พรรครทสช. จะสามารถการันตีเก้าอี้ ส.ส. 6 ที่นั่งยกจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ทันที 

แต่ “สันติ” อาจจะต้องคิดหนัก เพราะเก้าอี้เลขาธิการพรรครทสช.คงไม่เปลี่ยนใหม่ อำนาจต่อรองภายในพรรคของ “สันติ” จะลดลงทันที ทว่าหากยังอยู่พรรคพลังประชารัฐ แม้จะได้นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค ก็ใช่ว่าจะมีอำนาจบริหารจัดการพรรค

“กลุ่มสามมิตร” ที่เหลือเพียงสองมิตร มีกระแสข่าวว่า “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม เปิดดีลกับพรรครทสช.มานานแล้ว ขณะที่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม ปรากฏความเคลื่อนไหวส่งเด็กในคาถาฝังตัวอยู่กับพรรคเพื่อไทย (พท.) ทำให้ทิศทางของ “สองมิตร” ยังคลุมเครือ

ส่วน “กลุ่มกำแพงเพชร” ภายใต้การนำของ “วราเทพ รัตนากร” ขอพ่วงไปกับ “สมศักดิ์” เพราะมีความสัมพันธ์แนบชิด หาก “สมศักดิ์” เดินเกมทางการเมืองแทงขั้วไหน “วราเทพ” พร้อมก้าวตาม

ด้าน “ส.ส.” จากพรรคประชาธิปัตย์ มีกระแสข่าวว่าจะมูฟออนออกจากพรรคในช่วงต้นเดือน ม.ค. จับตาไปที่ ส.ส. ภาคกลาง อาจจะมี “บิ๊กเนม” โผล่ร่วมงานพรรครทสช.

ทั้งนี้ “บิ๊กเนม รทสช.” ขีดเส้นตายเอาไว้ว่า หาก “บิ๊กเนม-แกนนำกลุ่ม” คนใดจะร่วมงานกับพรรครทสช. ซึ่งมี “ประยุทธ์” ถือธงนำ จะต้องแสดงเจตจำนงเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในช่วงกลางเดือน ม.ค. หากช้าไปกว่านี้พรรครทสช.จะต้องจัดเตรียม “นักเลือกตั้ง” ในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งไว้ให้ “บิ๊กเนม-แกนนำกลุ่ม” 

ฉะนั้นช่วงก่อนกลางเดือน ม.ค. 2566 จะได้เห็นขุมกำลังของพรรครทสช.เต็มรูปแบบ เป็นขุมกำลังที่จะเข็น “ประยุทธ์” ให้คัมแบ็คเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3