“ประยุทธ์ -อนุทิน”วัดใจ เงื่อนไข“นายกฯ”คนละครึ่ง
การขยับตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเป็นสมาชิก-แคนดิแดตนายกฯ ของ รทสช. เพราะมั่นใจแล้วว่า เลือกตั้งครั้งหน้าจะข้ามเส้นพรรคการเมืองเกิน 25 เสียง เปิดทางเสนอชื่อเป็นนายกฯอีกสมัย
เงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญชีวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ที่เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 คือการได้เป็นเจ้าของ 2 กระทรวงเกรดเอ ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม
ผ่านไปเกือบ 4 ปี ต้องยอมรับว่า “อนุทิน” แฮปปี้ไม่น้อย เพราะได้ทำหน้าที่อย่างอิสระ ทั้งตำแหน่งรองนายกฯ ควบ รมว.สาธารณสุข ไม่ต่างกับ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” นั่งเป็น รมว.คมนาคม ที่ปราศจากการแทรกแซง ล้วงลูกจากพล.อ.ประยุทธ์ แตกต่างกับการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในอดีตที่เรียกได้ว่า ล้วงยันตับไตไส้พุง
ด้วยการทำงานแบบสไตล์แมนๆ ของอดีตทหารอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากไม่แทรกแซงงานของเจ้ากระทรวงแล้ว บางครั้งยังโพรเทคให้อีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลก “อนุทิน” จะใช้ศัพท์เฉพาะแบบทหารเรียกขาน พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “นายครับ หรือ ครับนาย”
จะว่าไป “อนุทิน” คลุกคลีในแวดวงสีเขียวมาระยะหนึ่งแล้ว หลังเข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 61 (วปอ.61) หาคอนเนกชั่นสานสัมพันธ์กับคนในกองทัพ หลักประกันชั้นเลิศในเรื่องความมั่นคง “เก้าอี้นายกฯ” ในอนาคต
สำหรับรายชื่อนักศึกษา วปอ.รุ่น 61 ได้ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ปี 2561 ที่ลงนาม โดย พล.อ.ประยุทธ์ มีจำนวน 284 นาย ส่วนใหญ่เป็นนายทหารจากทุกเหล่าทัพ ตำรวจ ข้าราชการ พลเรือน นักการเมือง นักธุรกิจ ภาคเอกชน และผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ
เพื่อนร่วมรุ่น วปอ.61 ของ “เสี่ยหนู” ล้วนไม่ธรรมดา เพราะมีทั้ง “แคนดิเดต” ที่จะก้าวขึ้นตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพ แม่ทัพ นายกอง ที่ผ่านหลักสูตรนายทหารสัญญาบัตร หน่วยทหารรักษาพระองค์ และทำหน้าที่ในหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904) หรือทหาร ฉก.คอแดง คุมกำลังหลักหลายคน
ทั้ง “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) ที่จะก้าวขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ต่อจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ที่จะเกษียณปี 2566
“บิ๊กโต” พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวลาง ผู้ช่วย ผบ.ทบ.
อีกคนเรียกได้ว่า ซี้ปึ้กกับ อนุทิน คือ “บิ๊กเกรียง” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. อดีต แม่ทัพภาคที่ 4 กระดูกเหล็ก ที่รอดชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ รวมถึง “บิ๊กเล็ก” พล.ท.ปิยะพงษ์ กลิ่นพันธ์ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อดีตทีมโฆษก คสช.
นอกจากนี้ ยังมี “บิ๊กหนุ่ม” พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องรัก พล.อ.ประยุทธ์ -พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ หัวหน้า พปชร. “บิ๊กจ๊อด” พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. “บิ๊กวิน” พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ทร. น้องชาย “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
“อนุทิน” เตรียมตัวมาอย่างดีสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ว่าได้ ประจวบเหมาะกับกระแส “ภูมิใจไทย” ที่เนื้อหอมแบบสุดๆ หลังเกิดปรากฎการณ์ อดีต ส.ส.จากพรรคอื่นเกือบครึ่งร้อยขอย้ายเข้าสังกัดเมื่อไม่กี่วันมานี้ ขยับจากพรรคไซต์กลางเป็นไซต์ใหญ่
ส่วนพรรคน้องใหม่ อย่าง รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ใช้เป็นฐานที่มั่นใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่ออีกสมัยที่ 2 ตกเป็นรองอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังมีคำปรามาสจะได้ ส.ส.ไม่เกิน 25 เสียงกับความไม่แน่นอนของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่ตัดสินใจทางการเมือง จนทำให้เกิดกระแสข่าวต่างๆ นาๆ ออกมา
"รวมไทยสร้างชาติ" ถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด เพราะเป็นพรรคที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้น้อยที่จะย้ายไปหาพรรคอื่น หรือยุติบทบาททางการเมืองกลางคัน เพราะเดินหน้ามาถึงขณะนี้แล้ว
ปัจจุบัน รวมไทยสร้างชาติอยู่ในระหว่างฟูมฟักตัวผู้สมัคร ส.ส. ที่มีทั้งวอล์กอินเข้ามา และกำลังเฟ้นหา โดยมีการทำโพลล์ชี้วัด และประเมินกันแล้วว่า หากเป็นพื้นที่ในเมือง เลือกคนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีความตั้งใจ ขยันลงพื้นที่ มีความเป็นไปได้มากกว่า ส่วนพื้นที่นอกเมือง ยังคงคอนเซ็ป คนเก่า เก๋าการเมือง และคาดว่าเร็วๆ นี้ จะได้ข้อยุติการส่งตัวผู้สมัครครบทุกเขต
จึงได้เห็นการขยับตัว พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเป็นสมาชิกและแคนดิแดตนายกฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ และเตรียมเดินหน้าเต็มสูบ สู้ศึกเลือกตั้ง แม้ ภาคอีสาน ภาคเหนือ พื้นที่ยุทธศาสตร์ของเพื่อไทยจะยังคิดไม่ตกว่าจะหายุทธวิธีอะไรมาแก้เกม
แต่ในภาคใต้เชื่อว่ากระแสยังได้อยู่ น่าจะเป็นสิ่งการันตีเลือกตั้งครั้งหน้าจะข้ามเส้นพรรคการเมืองเกิน 25 เสียง เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ได้สบาย
บวกกับเสียงโหวตครั้งสุดท้ายของ 250 ส.ว. และ พปชร. ที่เชื่อกันว่า “บิ๊กป้อม” ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ภายใต้เกมต่อรองทางการเมือง ซึ่งแม้แต่ภูมิใจไทยเอง หากได้กระทรวงเกรดเอมาเพิ่ม เช่น กระทรวงมหาดไทย ในฐานะพรรคไซต์ใหญ่ จะให้อนุทิน เรียก “นายครับ” ไปอีกสัก 2 ปีก็คงไม่เป็นไร