ได้เสีย“ร่างกฎหมายกัญชา” ประเด็นล่ม "สมการ" การเมือง
สัญญาณตีตก "ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง" ปรากฎชัดเจน และแจ่มชัด หลัง ถูก "เกมการเมืองล่มประชุม" จาก "เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์" จับตาความแค้นฝังใจจากคน "ภูมิใจไทย" ที่ส่อแววมีผลกระทบสมการร การรเมือง "ฟอร์มรัฐบาล
ฉลองเปิดสภาผู้แทนราษฎรในศักราชใหม่ ด้วยการ “ล่มประชุม” อีกครั้ง ระหว่างพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ...วาระสอง
ทำให้สัญญาณชัดเจนว่า ในสมัยของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะผลักดัน กฎหมายเพื่อควบคุมการผลิต การใช้ การสกัดกัญชากัญชงทุกมิติ และทั้งระบบ “ไม่สำเร็จ” เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้ ใช้เวลาพิจารณาไปแล้ว 3 ครั้ง แต่ยังไปไม่ถึงครึ่งทาง
เป็นผลให้ขยายสุญญากาศ “กัญชาเสรี” ให้ยาวออกไปอีก 1 ปี เป็นอย่างน้อย
ประเด็นนี้ ศุภชัย ใจสมุทร แกนนำภูมิใจไทย ฐานะประธานกมธ.ฯ ยอมรับถึงการเล่นเกมการเมือง “ล่มประชุม” เพื่อสกัด “กฎหมายเพื่อควบคุมการใช้ ผลิต กัญชา กัญชง และสารสกัด” โดยส.ส.กลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย
หากนับเวลาตามปฏิทินจนถึงวันหมดสมัยประชุม มีเวลาให้สภาฯพอประชุมได้อีก 6 ครั้ง แต่หากเกมล่มประชุมยังเกิดขึ้น “ศุภชัย” ยอมรับว่า สถานะของร่างกฎหมายกัญชาที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทยจะพิจารณาไม่ทันในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 และ “ต้องตกไปในที่สุด”
เพราะตามกติกา แม้จะเป็นกฎหมายสภาฯ พิจารณาอยู่ แต่หากยังไม่ลงมติเห็นชอบจะถือว่าตกไป แม้รัฐธรรมนูญมาตรา 147 วรรคสอง กำหนดให้ “คณะรัฐมนตรี”ชุดใหม่ ร้องขอให้พิจารณาต่อได้ แต่ฉบับที่ไม่ใช่ “รัฐบาล”เสนอ อาจไม่ถูกยื่นคำร้องให้สภาฯ พิจารณาได้ต่อไป
ทว่า ประเด็นนี้ “ศุภชัย” ไม่หวั่นวิตก เพราะมองเป็นโอกาสที่พรรคภูมิใจไทยจะนำไปขยายผลหาเสียงในสนามเลือกตั้ง เพื่อเอาชนะคู่แข่งการเมืองด้วยประเด็น “กัญชา-พืชเศรษฐกิจ”
อย่างไรก็ดี ในการอภิปรายของเนื้อหาร่างกฎหมายกัญชากัญชงที่สภาฯ พิจารณาแล้ว 3 ครั้ง มีความคืบหน้าทั้งสิ้น 18 มาตรา จากทั้งหมด 95 มาตรา ถูกตั้งข้อสังเกตจาก “คนพรรคเพื่อไทย” ว่า เป็นร่างกฎหมายที่เอื้อการเมือง มีผลประโยชน์ทับซ้อนทางด้านธุรกิจ
ทั้งการกำหนดให้ครัวเรือนปลูกกัญชาได้ไม่เกิน 15 ต้น กำหนดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ประกอบการด้านธุรกิจ อุตสาหกรรมกัญชากัญชง ร่วมเป็นคณะกรรมการระดับชาติด้านกัญชา กัญชง มีหน้าที่เสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์ ควบคุม ส่งเสริมกัญชา รวมถึงมาตรการส่งเสริมวิจัยพัฒนา
โดยเฉพาะการกำหนดให้ตำแหน่ง “ประธานสภาเกษตรกร” ที่มีสมาชิกทั่วประเทศ 14 ล้านครัวเรือน ปัจจุบันเป็น “เด็ก” ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ร่วมเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ทำให้ถูกมองว่า นี่คือการฉวยโอกาสหาเสียงในทางการเมือง ให้ประโยชน์ต่างตอบแทนล่วงหน้ากับกลุ่มเกษตรกร
ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยคือเบอร์หนึ่ง ครองฐานความนิยมสูง เมื่อถูกชิงไปต่อหน้าต่อตา จึงถือเป็นความเสียหายอย่างสูงในทางการเมือง
ดังนั้น ส.ส.เพื่อไทยจึงใช้ความได้เปรียบในการประชุม สกัดร่างกฎหมายกัญชาฯให้สิ้นสุดการพิจารณา ไม่ว่าในวาระใด ภายในสิ้นสมัยประชุมสภาฯ นี้ เพราะประเมินว่า ตราบใดที่กฎหมายนี้ไม่ผ่าน เพื่อไทยยังคงได้เปรียบในการเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง และตอบโจทย์ “เพื่อไทยแลนด์สไลด์” แน่นอน
ทว่า การเล่นเกม “ตีตกกฎหมายเพื่อน” นั้นอาจมีผลต่ออนาคตการจับมือร่วมรัฐบาลหลังเลือกตั้ง โดย “วันชัย สอนศิริ”ส.ว.ในฐานะโหรการเมืองประเมินว่า "ร่างกฎหมายกัญชาจะเป็นประเด็นฝังใจแค้นระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรคที่คัดค้าน เช่น ประชาธิปัตย์ ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาต่อการจับมือร่วมกันตั้งรัฐบาลในอนาคต"
ดังนั้นต้องจับตาผลของเกมล่มประชุมสภาฯ เพื่อสกัดร่างกฎหมายกัญชาฯ ว่าจะส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองหลังเลือกตั้งหรือไม่ โดยเฉพาะการฟอร์มรัฐบาลในสมการ “ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย”.