"ธรรมนัส" เผย รอ "ประวิตร" สั่งกลับ "พปชร." แย้ม อีกไม่กี่วันชัดเจน

ที่ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง จ.พะเยา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการกลับมาอยู่กับ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า สถานภาพขณะนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย แต่เรื่องการเมืองไม่ปฏิเสธว่าเคารพรัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาอย่างสม่ำเสมอ เพราะท่านมีพระคุณกับตน ดังนั้น ทุกอย่างทางการเมืองตนได้บอกกับพล.อ.ประวิตร ว่า ขึ้นอยู่กับพล.อ.ประวิตร จะให้ตนเดินไปทางไหนต่อ 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร อยากให้กลับมาพลังประชารัฐหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ใหญ่การเมืองหลายคนบอกว่ายังมีเวลาอยู่ในการตัดสินใจ และตนในฐานะที่เป็นแกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย ก็ยังรักบ้านเดิมอยู่ แต่ถ้า พล.อ.ประวิตร สั่งอย่างไร ก็พร้อมจะทำตาม อีกทั้งตนจะลงสมัครรับเลือกตั้งเองหรือไม่ ก็ต้องฟังเสียงของประชาชน ส่วนจะลงสมัครในนามพรรคใด ขึ้นอยู่กับพล.อ.ประวิตร และคงไม่กี่วันน่าจะได้ความชัดเจน แต่ก่อน 7 ก.พ. 66แน่นอน 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้ส่งสัญญาณว่าจะให้กลับมาพลังประชารัฐเมื่อไหร่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ในส่วน ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย เราให้อิสระในการตัดสินใจ

เมื่อถามว่า แกนนำพลังประชารัฐหลายคนทิ้ง พล.อ.ประวิตร ไปแล้ว จะช่วยหาใครมาเติมเต็มในจุดนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวลานี้ยังเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย ยังพูดอะไรได้ไม่เยอะแต่แนวร่วมที่เคยสร้างพลังประชารัฐมาตั้งแต่ยังเป็นวุ้น ก็ช่วยกันอยู่หลายคน ที่ออกไปแล้วก็กลับมา 

เมื่อถามว่า มองสถานการณ์การเมืองอย่างไรที่พี่น้อง 2 ป. แยกกันเดิน เหมือนมาแย่งคะแนนกันเอง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มองอย่างนั้น แต่เป็นรูปแบบของประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ แต่ละคนมีบ้านเป็นของตัวเอง พล.อ.ประวิตร ก็รักบ้านของท่านเพราะสร้างมา เช่นเดียวกับส.ส.หลายคน ส่วนการแยกกันเป็นสีสันทางการเมืองที่จะมาถึงในการเลือกตั้ง ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นพรรคอะไรก็ตาม จะง่ายกว่าเดิม เพราะจำนวนพรรคไม่มากเท่าปี 62 ส่วนที่มองว่าจะเป็นการตัดคะแนนกันเองนั้น ถ้าเป็นการเมืองแบบพวกตนที่เป็น ส.ส.ต่างจังหวัด ไม่มีผล และตนยังมั่นใจในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนการปราศรัยกับประชาชนตอนหนึ่งที่ระบุว่า พา พล.อ.ประวิตร นายกฯ คนที่ 30 มาพบชาวพะเยานั้น เพราะบุคลิกและนิสัยใจคอของพล.อ.ประวิตร มั่นใจว่าท่านเป็นผู้นำของพี่น้องประชาชน ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชนตัดสินใจ และผลการทำงานในช่วงที่ผ่านมาของพล.อ.ประวิตร จะทำให้ประชาชนเห็น