3 เหล่าทัพ ถวายสัตย์ฯต่อธงชัยเฉลิมพล ผบ.ทบ. ย้ำ ทหาร ปกป้องชาติ -ราชบังลังก์
"3 เหล่าทัพ" ถวายสัตย์ฯต่อธงชัยเฉลิมพล
"ผบ.ทบ." ย้ำให้ทหารรักษาสัจจะวาจาตามคำปฏิญาณ ปกป้องชาติ -ค้ำจุนราชบังลังก์ เป็นกำลังหลักด้านความมั่นคง
วันที่18 ม.ค. 2566 ที่ลานอเนกประสงค์ ศูนย์การทหารม้า จ.สระบุรี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหาร เนื่องในโอกาสวันกองทัพบก และวันกองทัพไทย โดย ผบ.ทบ.ได้ตรวจพลสวนสนาม และทำพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล โดยนำกล่าวว่า
“ข้าพเจ้า ขอกระทำสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพเจ้า จักยอมตาย เพื่ออิสรภาพ และความสงบแห่งประเทศชาติ และประชาชน ข้าพเจ้า จักอยู่ในศีลธรรมของศาสนา และจรรยาบรรณ ,ข้าพเจ้า จะเทิดทูนและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ,ข้าพเจ้า จักรักษาไว้ ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ,ข้าพเจ้า จักเชื่อถือผู้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ,ทั้งจักปกครองแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความยุติธรรม ข้าพเจ้า จะไม่แพร่งพรายความลับของราชการทหารเป็นอันขาด
จากนั้นได้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวให้โอวาทว่า วันที่ 18ม.ค.ของทุกปี ถือเป็นวันกองทัพไทยและวันกองทัพบก นับเป็นวันที่มีความสำคัญและมีความหมายยิ่งของคนไทยทั้งชาติ ที่ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และบรรพชนทหารกล้า ที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยให้เป็นมรดกของชนรุ่นหลังมาจนถึงทุกวันนี้ อันเป็นแบบอย่างที่เหล่าทหารทั้งหลายควรยึดถือ
และตระหนักถึงภาระหน้าที่ที่มีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการดำรงไว้ซึ่งความผาสุกของประชาชน
“สำหรับทหารใหม่ทุกนาย นับเป็นโอกาสสำคัญที่ได้กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งแสดงถึงการเป็นทหารอย่างสมบูรณ์และพร้อมทำหน้าที่ทหารของชาติ ที่จะต้องเสียสละ ประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ตลอดจนอุทิศกำลังกาย กำลังใจ ปกป้องประเทศชาติค้ำจุนราชบัลลังก์ และเป็นที่พึ่งหวังของประชาชนในทุกโอกาส จึงขอให้ทุกท่านได้ยึดมั่นและรักษาสัจจะวาจาที่ได้ให้ไว้อย่างเคร่งครัด ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มแข็ง เป็นทหารอาชีพที่มีเกียรติ ศักดิ์ศรี มีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ตั้งมั่นอยู่ในระเบียบวินัย ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ พร้อมทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น ร่วมมือร่วมใจกันเสริมสร้างกองทัพให้มีความก้าวหน้าเป็นปึกแผ่น สามารถยืนหยัดได้อย่างสง่างามและเป็นกำลังหลักด้านความมั่นคงที่มีศักยภาพของประเทศชาติสืบไป”
จากนั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยังได้อ่านสาส์นของ พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ความว่า ทหารทุกเหล่าทัพต้องเข้าร่วมการประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล อันถือเป็นเครื่องหมายแทนองค์พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นจอมทัพและเป็นหลักชัยอยู่ท่ามกลางทหารทั้งปวง ขอให้ทหารทุกท่านจงยึดมั่น และรักษาคำสัตย์ปฏิญาณที่ได้ให้ไว้โดยเคร่งครัดและมั่นคง ปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบอย่างดีที่สุด กองทัพไทยมีหน้าที่ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นปัจจัยสำคัญของบ้านเมืองที่ทหารจักต้องรักษาไว้เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ ต้องดูแลช่วยเหลือประชาชน พัฒนาและแก้ไขปัญหาของชาติ เสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ให้มีความถูกต้องด้วยเกียรติ ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจ มีความรักสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีระเบียบวินัยและมีจิตอาสาในการทำความดีพร้อมทั้งพัฒนาตนเองให้มีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้มีศักยภาพพร้อมสนับสนุนการดำเนินภารกิจของกองทัพไทยให้บรรลุความสำเร็จ และสร้างเสริมประเทศชาติให้มีความผาสุก ร่มเย็น สามารถชับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมั่นคงต่อไป
หลังจากนั้นจึงเป็นการสวนสนามของกำลังพล ซึ่งในปีนี้ประกอบด้วยกรมสวนสนาม จำนวน 4 กรม 16 กองพัน จัดกำลังจาก กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 และกรมทหารปืนใหญ่ที่ 71 โดยมี พล.ต. ณัฐเดช จันทรางศุ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เป็นผู้บังคับกองผสม ซึ่งปีนี้ไม่มีการสวนสนามยานยนต์แต่มีการนำรถถัง รถเกราะมาตั้งโชว์ในงาน
ส่วนกองทัพเรือ จัดขึ้นที่ลานสวนสนาม หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทยประจำปี 2566 ในส่วนของกองทัพเรือ พื้นที่สัตหีบ ประกอบด้วย การตรวจพลสวนสนาม พิธีทางศาสนา การกล่าวปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล การอ่านโอวาทของผู้บัญชาการทหารสูงสุด และการสวนสนามของหน่วยทหารกองทัพเรือ จำนวน 12 กองพัน
โดยจัดกำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือเข้าร่วมสวนสนาม จำนวน 12 กองพัน แบ่งเป็นผู้ร่วมสวนสนามจำนวน 1,680 นาย ทหารใหม่เข้าร่วมพิธีกระทำสัตย์ตนจำนวน 457 นาย ซึ่งวิธีดังกล่าวได้อาราธนาพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์แก่กำลังพลที่เข้าร่วมพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยธงชัยเฉลิมพลเป็นธงประจำหน่วยทหารที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เป็นสัญลักษณ์เชิดชูเกียรติ และศักดิ์ศรีของหน่วยทหารทุกเหล่าทัพ
โดยกิจกรรมที่จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเพื่อให้ทหารใหม่ทุกนายกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล อันถือเป็นเครื่องหมายแทนพระองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นจอมทัพที่เสมือนเสด็จพระราชดำเนินมาประทับ เป็นหลักชัยอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารทั้งปวง อีกทั้งยังเป็นเครื่องหมายของสามสถาบันหลักคือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นปัจจัยสำคัญของบ้านเมืองที่ทหารจักต้องรักษาไว้ เพื่อประโยชน์สุขแห่งประเทศชาติและประชาชน
ส่วนที่ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย ประจำปี 2566 ในส่วนของกองทัพอากาศ
โดยกองทัพอากาศได้จัดกำลังพลสวนสนาม จำนวน 5 กองพัน ได้แก่
1. กองพันนักเรียนนายเรืออากาศ กรมนักเรียนนายเรืออากาศ รักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
2. กองพันนักเรียนจ่าอากาศ โรงเรียนจ่าอากาศ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ
3. กองพันทหารอากาศโยธิน กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน
4. กองพันทหารต่อสู้อากาศยาน กรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน
5. กองพันปฏิบัติการพิเศษ กรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน
พร้อมทั้งจัดเครื่องบินขับไล่แบบที่ 19/ก (F-16) จากฝูงบิน 103 กองบิน 1 และเครื่องบินโจมตีและธุรการแบบที่ 2 (AU-23) จากฝูงบิน 501 กองบิน 5 บินผ่านบริเวณพิธี
นอกจากนี้ นายทหารชั้นสัญญาบัตร นายทหารชั้นประทวน และทหารกองประจำการ ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมพิธีฯ ได้เข้าปฏิญาณตนในพิธีครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่บุคคลซึ่งเข้ามารับราชการทหารจะต้องเข้าร่วมพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล จึงจะถือว่าเป็นทหารโดยสมบูรณ์