"ประวิตร" ถือฤกษ์ ตะลุย ป้อมปราบฯ ขึ้นรถแห่หาเสียง โว พปชร. กวาด 12ส.ส.กทม.
"ประวิตร" เอาฤกษ์เอาชัย ลงพื้นที่ "ป้อมปราบฯ" ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดเล่งเน่ยยี่ ขึ้นรถแห่หาเสียง ปิดท้าย ป้อมมหากาฬ เผย "สมศักดิ์-สุริยะ" ยังอยู่ ไม่ทิ้ง พปชร. โว กวาด ส.ส.กทม.12คนขึ้นไป
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวพรรคพลังประชารัฐ ถือฤกษ์วันวาเลนไทน์ นำผู้บริหารพรรค ได้แก่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายสกลธี ภัททิยกุลกรรมการบริหารพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ที่รับผิดชอบพื้นที่กทม. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ลงพื้นที่หาเสียงในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นพื้นที่แรก
โดยจุดแรก พล.อ.ประวิตร และคณะได้ไปที่วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) เพื่อสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 จุด เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีประชาชนที่มาทำบุญรอทักทายจำนวนมาก
จากนั้นได้ขึ้นรถแห่ปราศรัยหาเสียง และขอให้ชาวกรุงเทพฯ เลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ เข้ามาทำหน้าที่แทนประชาชน ในการขจัดปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทย โดยขบวนรถแห่ได้เคลื่อนตัวออกจาก ไปยังวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตลอดเส้นทาง ได้ผ่านหน้า สน.พลับพลาไชย มุ่งหน้า ถ.หลวง เข้าแยกแม้นศรี เข้าวัดสระเกศฯ ด้านถนนจักรพรรดิพงษ์ โดยคณะของพล.อ.ประวิตร ได้ทักทาย พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนตลอดสองข้างทาง
หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ที่วัดสระเกศฯ ว่า เป็นครั้งแรกที่ขึ้นรถแห่หาเสียงและลงพื้นที่กทม.มีคนทักทายระหว่างทางก็ดีใจ การเลือกลงพื้นที่วันนี้เพราะเป็นวันวาเลนไทน์ ก็ต้องการให้ความรักกับคนกรุงเทพฯ ให้รักกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง และขจัดความยากจนในพื้นที่ให้หมดไป เป็นแนวคิดที่พรรคพลังประชารัฐดำเนินการ การลงพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพื่อไปปราบความยากจน ไม่ใช่ไปปราบกับใคร และวันนี้ที่มาขอพรวัดสระเกศ ก็ได้อธิษฐานเหมือนๆกัน ขอให้ประสบความสำเร็จ
เมื่อถามว่า บรรยากาศวันนี้ดูเหมือนประชาชนสองข้างทางตอบรับทักทาย อย่างดีพล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ดี เพราะอยากให้คนไทยรักกัน ทุกคนและก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดความยากจน
เมื่อถามย้ำว่า เสียงตอบรับจากประชาชนวันนี้ถือว่าดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ สื่อต้องดูเอาและตอบคำถามนี้เอง
เมื่อถามว่า แล้วเสียงของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ย้ายออกไปมีผลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีๆ สามมิตรก็ยังอยู่ ไม่มีใครออกไปไหน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ก็ยังอยู่ มีแค่นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนายกรัฐมนตรี คนเดียวที่ออกจากพรรคไป และที่ออกไปก็ไม่ได้ใจหาย เพราะมีคนเข้ามาเพิ่มเป็นร้อยคน
เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจแค่ไหนในพื้นที่กทม. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่เมื่อส่งคนลงสมัครก็ต้องมั่นใจ เพราะเราได้พยายามคัดเลือกคนที่มีความรู้ ความสามารถ ที่จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ พัฒนาประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่าครั้งที่แล้วพรรคพปชร.ได้ส.ส.กทม. 12 คน ครั้งนี้ตั้งเป้าไว้เท่าไหร่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะได้ ส.ส.กทม. 12 ที่นั่งเป็นต้นไป ไม่รู้ว่าจะได้เท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าได้พยายามคัดคนที่มีความรู้ ความสามารถ ที่จะมาทำงานให้กับประชาชน มาขับเคลื่อนนโยบายของพรรคให้ประชาชนพ้นจากความยากจน
เมื่อถามถึงกรณีที่ มีส.ว.บางกลุ่มประกาศแสดงจุดยืนสนับสนุนการโหวตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพียงแค่ 2 คน คือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร เท่านั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผมไม่ใช่ ส.ว. ให้ไปถาม ส.ว.
เมื่อถามว่าการแสดงจุดยืนดังกล่าว เหมือนปิดประตูพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่าผมไม่รู้ ต้องไปถามส.ว.
จากนั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมแกนนำ และผู้สมัคร ส.ส.กทม. ได้ถ่ายภาพร่วมกันบริเวณ ป้อมมหากาฬ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ก่อนจบกิจกรรมปราศรัยหาเสียง