กกต.อบรม จนท.รับศึกเลือกตั้ง 66 ชี้แบ่งเขตไม่ทำให้ถูกใจใคร แต่ยึด รธน.
เลขา กกต.นำทีมอบรมเจ้าหน้าที่ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง 66 ชี้การแบ่งเขตเลือกตั้งไม่ทำให้ถูกใจใคร แต่ยึดตามรัฐธรรมนูญ หวังเป็นที่ยอมรับ ทางออกของประเทศ วอนพรรคการเมืองแข่งขันให้เคารพกฎหมาย ขอบคุณสื่อเสนอข่าวตรง
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2566 เวลา 09.20 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดอบรมสัมมนาเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติ กฎหมาย กฎระเบียบที่ปรับปรุงเปลี่ยนไปตามห้วงเวลาระหว่างสำนักงาน กกต. สื่อมวลชน และเครือข่ายสำนักงาน กกต.เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง 2566
โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวเปิดงานว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความร่วมมือกับ กกต.เป็นอย่างดีที่ลงข่าวตรง แต่สิ่งที่ต่างออกไปเกิดจากคอลัมน์นิสต์ที่ยังลงไม่ตรงเพราะเป็นแค่การความคิดเห็น ซึ่งไม่ว่าข่าวจะตรงหรือไม่ตรงเราก็รับฟังและนำมาเป็นข้อคิดในการทำงาน แต่ข้อมูลจากสื่อมวลชนนั้นมีความน่าเชื่อถือกว่าเพราะมีจริยธรรม นอกสื่อคนที่พยายามเป็นสื่อมวลชนมีมากมาย เพราะทุกคนพร้อมที่จะเป็นสื่อทางโซเชียลมีเดีย ทำให้การทำงานของเราได้รับฟังความคิดเห็นของสังคมในขณะนั้นได้ และจะนำความเห็นมาพิจารณาในการทำงาน แต่เราก็ต้องทำตามกฎหมาย ทั้งนี้ กกต.ไม่ได้ทำงานเพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่เราทำงานเพื่อประเทศไทย
นายแสวง กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. สำนักงาน กกต.ไม่ได้ยึดหลักว่าต้องทำให้ถูกใจใคร เพราะผู้แข่งขันทุกคนก็ต้องการชัยชนะ เพียงแต่ต้องทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เราต้องทำให้เป็นที่ยอมรับของทุกคน เพื่อให้เป็นทางออกของประเทศได้ อย่างไรก็ตามเรามี 4 หลักในการทำงาน 1.สุจริต เที่ยงธรรม 2.โปร่งใส ตรวจสอบได้เมื่อมีปัญหา 3. ประสิทธิภาพ 4.การมีส่วนร่วมของประชาชน ทุกคนควรรู้เรื่องการเลือกตั้งเท่ากันไม่ว่า กกต. ผู้สมัคร หรือประชาชน จะทำให้การเลือกตั้งง่ายขึ้น ไม่ถูกชักนำจากแรงจูงใจอย่างอื่น ถ้าประชาชนยังไม่รู้กติกาก็มีโอกาสถูกแรงจูงใจทางการเมือง ส่วนเมื่อมีการแก้กฎหมาย มีระเบียบใหม่ การเลือกตั้งก็จะเปลี่ยนไป ยืนยันว่าเราทำตามกฎหมาย ถ้ากฎหมายเป็นแบบนี้เราก็ต้องทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่า กกต.คิดกติกาเพื่อประโยชน์ของใคร ถ้ากติกาไม่ดีก็ให้ไปแก้ที่กฎหมาย
เลขาธิการ กกต. กล่าวด้วยว่า สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.นั้นมีแรงเสียดทานที่ตามมา จึงให้โจทก์กับสำนักงานว่าเราจะต้องทำให้เรียบร้อย และให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ ระหว่างทางกกต.จะทำทุกอย่างให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนเรื่องการทำไพรมารีโหวตของพรคการเมือง จากการทำงานร่วมกับพรรคการเมืองในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก็ต้องเน้นย้ำให้พรรคการเมือง ปฏิบัติตามขั้นตอนซึ่งมีทั้งสิ้น 10 ขั้นตอน ในฐานะหัวหน้างานธุรการของ กกต. และพรรคการเมือง ก็มีความมั่นใจกับตัวทีมงาน และประชาชนที่มาร่วมงานกับเรา ณ วันนี้เราก็ได้เตรียมความพร้อมตามเงื่อนไขเวลาที่เกิดขึ้น แต่การเลือกตั้งจะเรียบร้อย และเป็นที่ยอมรับต้องได้รับความร่วมมือจากคนทุกคนในชาติ และหวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้รับความร่วมมือ พร้อมย้ำว่าทาง กกต.รับฟังทุกความเห็น และไม่ได้ตัดสินใจบนพื้นฐานทางการเมือง แต่ตัดสินใจบนพื้นฐานของกฎหมาย และประโยชน์ของประเทศชาติ คงต้องขอความร่วมมือพรรคการเมืองว่าต้องแข่งขันให้เคารพกฎหมาย