"จุรินทร์" แย้มรอชมMV "เช้าวันใหม่" ลั่นพร้อมชิงแคนดิเดตนายกฯ
"จุรินทร์" แย้มรอชมMV "เช้าวันใหม่" สื่อสารประชาธิปไตยยุค “อุดมการณ์ ทันสมัย” ลั่นเป็นหัวหน้าพรรคต้องพร้อมชิง "แคนดิเดตนายกฯ"
ที่จ.นครราชสีมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมที่จะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า พร้อม คนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนต้องพร้อมเป็นนายกฯ
“นอกจากการเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ผมก็พร้อม มีประสบการณ์เป็นผู้แทนราษฎร 11 สมัย เป็นรัฐมนตรีมา 7 กระทรวง มีประสบการณ์ทั้งการบริหารนิติบัญญัติ เราเป็นนักการเมืองในวิถีประชาธิปไตยรัฐสภา ประเทศกำลังต้องเดินหน้าไปด้วยระบอบประชาธิปไตย ผมเป็นนักการเมืองในวิถีประชาธิปไตยคนหนึ่งที่พร้อม ที่จะเป็นนายกฯ ในระบอบประชาธิปไตยรัฐสภา” นายจุรินทร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่มีแกนนำหลายคนของพรรคปรากฎตัวใน MV เพลง “เช้าวันใหม่” ต้องการสื่อในเรื่องใดนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้ขอเป็นวันพรุ่งนี้ ให้ทีมงานจัดทำได้เดินหน้าทำไปก่อน ซึ่งเขาก็เป็นผู้มีศักยภาพ ความสามารถในการสื่อถึงประชาชนตัวจริง ก็ขอให้เขาได้ทำ ส่วนผมก็ทำหน้าที่ของผมไป
ส่วนจะมีส่วนพลิกโฉมของพรรคอย่างไรนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประชาธิปไตยยุค “อุดมการณ์ ทันสมัย” ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงก็เป็นตัวสะท้อนความทันสมัยอีกอันหนึ่ง ขอให้รอชมวันพรุ่งนี้
ส่วนที่มีหลายคนวิตกถึงการใช้อำนาจเงิน และอำนาจรัฐ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนเองก็เป็นห่วงทั้ง 2 ข้อ และประชาธิปัตย์คงไม่ไปใช้อำนาจรัฐ ถึงจะมีเราก็ไม่ใช้ เพราะมันไม่ใช่การเลือกตั้งที่ยุติธรรม เราต้องการเห็นการเลือกตั้งที่ยุติธรรม ชนะก็ต้องชนะอย่างยุติธรรม แพ้ก็ต้องแพ้อย่างยุติธรรม ถ้าเป็นอย่างนี้ประชาชนก็รับได้ และพาบ้านเมืองไปสู่วิถีประชาธิปไตยที่เราอยากเห็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเราต้องไม่เอา “ธนกิจการเมือง” มาเป็นตัวชี้นำการเมืองในวิถีประชาธิปไตย เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่ตัวสร้างประชาธิปไตย
“ธนกิจการเมือง Money Politic คือตัวทำลายประชาธิปไตยระยะยาว และสุดท้ายก็จะทำให้ประชาธิปไตยล่มอีก คนไทยต้องไม่สนับสนุนการซื้อตัวผู้แทน การดูด ส.ส. การใช้เงินในการประมูลตัวผู้แทนราษฎรเข้าพรรค สิ่งเหล่านี้คือมะเร็งร้ายของระบอบประชาธิปไตย เราอย่าไปสนับสนุนครับ ไม่อย่างนั้นเราทำลายประชาธิปไตย ที่สุดก็คือทำลายประเทศในอนาคต” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวในที่สุด