ปลัด มท.ถกด่วน! สางปม “สมาคม-มูลนิธิ” หลังพบถูกใช้ฟอกเงิน เก๊ 764 แห่ง
“ปลัดมหาดไทย” เรียกถกด่วนหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งรัดปรับปรุงกฎหมาย “สมาคม-มูลนิธิ-การพนันออนไลน์-ถือครองที่ดินต่างด้าว” ให้รัดกุม หลังพบถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน เจอของเก๊ 764 แห่ง เน้นเพิ่มโทษเจ้ามือ ป้องเด็กเยาวชนตกเป็นเหยื่อ
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2566 ที่ห้องประชุมสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ ชั้น 5 อาคารดำรงชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวสมาคม มูลนิธิ การพนันออนไลน์ และการถือครองกรรมสิทธ์ในที่ดินของคนต่างด้าว โดยมีนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายยงยุทธ ชื้นประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมด้วย
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมหารือร่วมกันของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย แนวทางการดำเนินงาน และการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับดำเนินการของสมาคม มูลนิธิ การพนันออนไลน์ และการถือครองกรรมสิทธ์ในที่ดินของคนต่างด้าว ซึ่งเป็นกฎหมายในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย โดยมีข้อหารือใน 3 ประเด็นด้วยกัน ได้แก่
ประเด็นแรก คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสมาคม มูลนิธิต่าง ๆ ที่อยู่ในความดูแลของกรมการปกครอง ซึ่งพบว่าที่ผ่านมา ได้มีการใช้ชื่อสมาคม และมูลนิธิโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือบางกรณีมีการขออนุญาตถูกต้องแต่มีการเรี่ยไรและใช้เป็นแหล่งฟอกเงินในธุรกิจที่ผิดกฎหมาย โดยปัจจุบันจากการตรวจสอบของกรมการปกครองใน 50 จังหวัด พบว่ามีมูลนิธิที่จดทะเบียนรวม 5,985 แห่ง เป็นมูลนิธิที่ดำเนินกิจการโดยชอบด้วยกฎหมาย 5,221 แห่ง และมีมูลนิธิที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิดหรือมีเหตุให้ร้องขอต่อให้ศาลให้เลิกมูลนิธิได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 764 แห่ง
ซึ่งกรมการปกครองจะต้องพิจารณาเพิ่มรายละเอียดเงื่อนไขการยื่นขอจัดตั้งมูลนิธิ สมาคม ให้เข้มงวดและรัดกุมขึ้น เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การเพิ่มทุนในการจดทะเบียน เพิ่มวงรอบในการตรวจสอบมูลนิธิ สมาคม รวมทั้งเพิ่มการฝึกอบรมให้ความรู้กับนายอำเภอ ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และนายทะเบียนที่มีอำนาจอนุมัติในการจัดตั้งมูลนิธิ สมาคม เพราะถือได้ว่า การลักลอบกระทำความผิดโดยใช้มูลนิธิ สมาคม เป็นภัยความมั่นคงในรูปแบบใหม่ ที่จะต้องมีการฝึกอบรมทบทวนเจ้าหน้าที่ให้รู้เท่าทันต่อสถานการณ์ดังกล่าวนี้
นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นถัดมา คือ เรื่องการพนันออนไลน์ ซึ่งในขณะนี้กรมการปกครองได้มีการปรับปรุงกฎหมายและบทลงโทษให้ครอบคลุม และเท่าทันต่อสถานการณ์การพนันรูปแบบใหม่มากยิ่งขึ้น เพราะจากสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่ามีรูปแบบการละเล่น การเดิมพัน ในรูปแบบใหม่เป็นจำนวนมากผ่านรูปแบบของการพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาทางสังคม เนื่องจากการพนันออนไลน์นั้นสามารถเข้าถึงได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ การปรับปรุงกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย จะมีการเพิ่มโทษของผู้กระทำความผิดที่เป็นผู้จัดให้เล่นหรือเจ้ามือ เช่น การเพิ่มโทษปรับให้สูงขึ้นเพราะมูลค่าของการพนันออนไลน์นั้น มีเม็ดเงินหมุนเวียนมูลค่าสูงมากเป็นหลักหมื่นล้าน พันล้าน
โดยในขณะนี้กระทรวงมหาดไทย ได้กำชับกรมการปกครอง ได้เร่งให้มีการปรับปรุงกฎหมายให้แล้วเสร็จโดยจะต้องทำให้ครอบคลุมและเท่าทันต่อสถานการณ์และรูปแบบการเล่นพนันซึ่งเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบออนไลน์เป็นส่วนใหญ่แล้วในปัจจุบัน และประเด็นสุดท้าย เรื่อง การถือครองกรรมสิทธ์ในที่ดินของคนต่างด้าวที่พบว่า ที่ผ่านมากรมที่ดินมีปริมาณงานที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก ทำให้บางครั้งเจ้าหน้าที่อาจไม่มีความละเอียดรอบคอบ เพราะต้องเร่งให้บริการประชาชนให้ทันต่อปริมาณผู้รับบริการ จนกระทั่งปรากฏเป็นข่าวทางสื่อสังคมและมีการดำเนินการตรวจสอบในเรื่องประเด็นการถือครองที่ดิน เช่น มีนอมินีที่เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือมีนิติบุคคลที่แม้จะมีผู้ถือหุ้นเป็นผู้มีสัญชาติไทยแต่ก็เป็นนอมินีเป็นบุคคลต่างชาติ โดยกระทรวงมหาดไทย จะเพิ่มแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น เช่น การสืบสวนที่มาของเงินที่ได้ทำธุรกรรมในการซื้อขายที่ดินว่านำเงินในส่วนนี้มากจากไหน และดำเนินการปรับปรุงตัวบทกฎหมายให้ผู้ที่ซื้อ-ขายที่ดินที่มีมูลค่าสูงจำเป็นต้องเปิดเผยแหล่งที่มาของเงินดังกล่าว ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ นี้จะทำให้การตรวจสอบการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินของคนต่างด้าวในประเทศมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น
นายสุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า ขอให้ทุกกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้เร่งดำเนินการทบทวนกฎหมายทุกระดับที่ใช้ในการทำงานตามความรับผิดชอบของกรม รวมถึงกฎหมายลูก ทั้งกฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่ามีฉบับใดที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข โดยกฎหมายที่ล้าสมัย ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เหมาะสมกับยุคสมัย ให้ดำเนินการหาทางแนวทางในการแก้ไข ปรับปรุง เพื่อให้สอดคล้องสอดรับกับบริบทของสังคมในปัจจุบัน ที่เปลี่ยนแปลงไป และทำให้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนอยู่ดี กินดี มีกฎ กติกาที่จะทำให้สังคมเกิดความผาสุก และหากกฎหมายฉบับใดที่ดีอยู่แล้ว ก็คงไว้ เพื่อความถูกต้อง เป็นธรรมกับประชาชน
ทั้งนี้ ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกหน่วยงานของทุกฝ่ายภายในกระทรวงมหาดไทยนี้ จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อน ส่งเสริมให้เกิดการ Change for Good ด้วยกลไกของกฎหมายให้เกิดขึ้น เพื่อทำให้กระทรวงมหาดไทย สามารถขับเคลื่อนงานดังปณิธาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” โดยมุ่งบรรเทาความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชนด้วยระเบียบกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ “ระเบียบกฎหมาย” เป็นเครื่องมือสำคัญที่กำหนดอำนาจหน้าที่ ทำให้กระทรวงมหาดไทยสามารถปฏิบัติภารกิจขับเคลื่อนงานได้อย่างเต็มกำลัง อันจะทำให้ข้าราชการของกระทรวงมหาดไทยมีเครื่องมือในการปฏิบัติราชการควบคู่การส่งเสริมการน้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้มีความสุขได้อย่างยั่งยืน