“จุรินทร์”มั่นใจกวาดส.ส.ภาคใต้ 40 บวก หลังกกต.เพิ่ม 2 เขต เป็น 60 ที่นั่ง
“จุรินทร์” ยินดีหลัง กกต.ประกาศเพิ่มเขตเลือกตั้ง “นครศรีธรรมราช-ปัตตานี” อีก 2 เขต ประกาศกวาด 40 ที่นั่งบวก จากทั้งหมด 60 ที่นั่ง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง จนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ต้องแบ่งเขตใหม่ และภาคใต้ ได้เพิ่มอีก 2 เขต คือ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และ ปัตตานี จาก 58 ที่นั่ง เพิ่มเป็น 60 ที่นั่งว่า ถือว่าเป็นเรื่องดีที่นครศรีธรรมราช กับปัตตานี มีผู้แทนเพิ่มขึ้น
สำหรับจังหวัดปัตตานี ในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) พรรคประชาธิปัตย์จะมีการเปิดตัวครบทั้ง 5 เขต ทั้งเขตเดิม 4 เขต และ เขตที่เพิ่มขึ้น 1 เขต ขณะนี้มีผู้สมัครครบแล้ว
ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังดำเนินการ แต่ไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีตัวผู้สมัครเกินจำนวนเขตอยู่แล้ว และจากการที่ภาคใต้มีจำนวนเขตเลือกตั้งเพิ่มเป็น 60 เขต จากเดิม 58 เขตนั้น ตนก็มั่นใจว่าอย่างน้อยก็ 40 บวก
“ในพื้นที่ภาคใต้ เสียงตอบรับประชาธิปัตย์ยังแน่นเหนียว และจากการลงพื้นที่ก็มีหลายคนบอกว่า คราวที่แล้วไม่ได้เลือก แต่เที่ยวหน้าจะเลือก เยอะเลย เราก็มั่นใจว่าพรรคไม่เคยเปลี่ยน อุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน และ 4 ปี เรายืนหยัดมั่นคงในอุดมการณ์ของเรา และก็มีผลงานจากการเข้าร่วมรัฐบาลปรากฎให้เห็นเป็นรูปธรรม รวมถึงการเฟ้นตัวผู้สมัครเที่ยวนี้เราได้คนรุ่นใหม่ คนใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ มีคุณภาพเข้ามาเสริมทัพเยอะเลย ถือว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่งให้กับพี่น้องคนภาคใต้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
สำหรับที่จังหวัดพัทลุง เย็นนี้ (4 มี.ค.) จะมีการปราศรัยใหญ่ และเปิดตัวผู้สมัครครบทั้ง 3 เขต เพราะพัทลุงมีจำนวนเขตเท่าเดิม โดยผู้สมัคร 2 คน เป็นคนรุ่นใหม่ คือ ดร.เดย์ ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี ผู้สมัครเขต 2 และ ร่มธรรม ขำนุรักษ์ ผู้สมัครเขต 3 ซึ่งเป็นคนเก่งทั้งคู่ มีศักยภาพสูงมาก
และเขต 1 คือ สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง 2 สมัย ถือว่าเที่ยวนี้ ทีมผู้สมัครพัทลุงของพรรคประชาธิปัตย์ คุณภาพคับแก้วทั้ง 3 คน พร้อมกับมั่นใจว่าจะมีพี่น้องประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยเรือนหมื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเวทีปราศรัยที่จังหวัดพัทลุง ไม่แพ้ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีประชาชนสนใจ เดินทางมาฟังปราศรัย ขณะนี้เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน