“ธนาธร” ปลุก นศ.แม่โจ้ ทำงานร่วมท้องถิ่น ลงพื้นที่เชียงใหม่ ชูกระจายอำนาจ
“ธนาธร” บรรยายหลักสูตรการพัฒนาเมือง ม.แม่โจ้ ชวนทำงานร่วมกับท้องถิ่นมากขึ้น พร้อมลงพื้นที่พบประชาชน พ่วง “จีน พุธิตา” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ “ก้าวไกล” ชูนโยบายกระจายอำนาจ เลือกผู้ว่าฯทุกจังหวัด
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2566 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล รับเชิญเข้าร่วมการบรรยายแลกเปลี่ยนกับคณาจารย์และนักศึกษา ในชั้นเรียนการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมร่วมรับฟังการนำเสนอผลงานโดยนักศึกษาชั้นปีที่ 3 และแลกเปลี่ยนร่วมกันในหัวข้อที่เกี่ยวกับเมืองอัจฉริยะและการมีส่วนร่วม
นายธนาธร เริ่มต้นการบรรยาย โดยระบุว่าเมื่อพูดถึงคำว่าเมือง ในจินตภาพของคนส่วนใหญ่แล้วมักมองไปในทางกายภาพ คือความทันสมัยและตึกรามบ้านช่อง แต่สำหรับตนมองคำว่าเมืองในฐานะหน่วยปกครองและการบริหาร ซึ่งในทางรูปธรรมของประเทศไทย ก็คือ อบต. และเทศบาล แต่ที่ผ่านมานักพัฒนาเมืองส่วนใหญ่ในประเทศไทยแทบไม่เคยมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับเทศบาลและ อบต. เลย ทั้งที่มีความสำคัญอย่างมาก เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและระบบเศรษฐกิจในชุมชนอย่างลึกซึ้ง
ดังนั้น การพัฒนาเมืองสำหรับตนจึงเป็นมากกว่าการพัฒนาทางกายภาพ แต่คือการพัฒนาในฐานะหน่วยที่มีหน้าที่ปกครองเมืองจริงๆ ด้วย นักพัฒนาเมืองจึงจำเป็นที่จะต้องมองเห็นข้อจำกัดของการพัฒนาในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องอำนาจและงบประมาณของเมือง ที่เป็นจุดอ่อนให้เมืองในประเทศไทยไม่สามารถพัฒนาได้
นายธนาธร กล่าวอีกว่า สำหรับนักพัฒนาเมืองทั้งหลาย องค์ความรู้การจัดการจะทำให้การพัฒนาเมืองเป็นไปได้อย่างมีพลัง แต่การรู้ถึงข้อจำกัดที่ทำให้เมืองพัฒนาไปไม่ได้ด้วยก็มีความสำคัญเช่นกัน และอยากให้อนาคตนักศึกษาที่จะจบออกไปเป็นนักพัฒนาเมืองในห้องนี้ ได้พิจารณาทำงานร่วมกันกับท้องถิ่นมากขึ้น หรือเข้าไปมีบทบาทในฐานะนักการเมืองท้องถิ่นในอนาคต
จากนั้นช่วงบ่าย นายธนาธร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ได้ร่วมกับ น.ส.พุธิตา ชัยอนันต์ หรือ “จีน” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล (อ.สันทราย และ อ.แม่ริมบางส่วน) เปิดเวทีพบปะประชาชนที่บ้านแม่โจ้ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เน้นพูดคุยเรื่องการกระจายอำนาจ โดยระบุว่าภาคประชาสังคมเชียงใหม่เป็นหนึ่งในผู้ที่ขับเคลื่อนเรื่องการกระจายอำนาจอย่างแข็งขันมาตลอด ผ่าน พ.ร.บ.เชียงใหม่มหานคร แต่ด้วยการสกัดขัดขวางในรูปแบบต่าง ๆ จึงทำให้การกระจายอำนาจยังไม่เกิดขึ้น
นายธนาธร กล่าวว่า ปัญหาของท้องถิ่นในประเทศไทย คือการมีอำนาจที่จำกัดจำเขี่ยมาก แม้จะได้รับการถ่ายโอนภารกิจมาแล้ว แต่กลับไม่เคยได้รับการจัดสรรงบประมาณลงมา งบประมาณที่เทศบาลและ อบต. ได้มาโดยส่วนใหญ่ก็มักมีเพียงพอเฉพาะรายจ่ายประจำ จะเหลืองบประมาณลงทุนต่อปีเพียงแค่ 2-3 ล้านบาทเท่านั้น ไม่สามารถดูแลปัญหาพื้นฐานในชีวิตของประชาชนได้
เมื่องบประมาณส่วนใหญ่กองอยู่ที่ส่วนกลาง ก็เกิดช่องว่างมหาศาลระหว่างงบประมาณกับประชาชนในท้องถิ่น เต็มไปด้วยตัวกลางที่กั้นขวางงบประมาณเอาไว้ เทศบาลและ อบต. ต่างๆ ต้องเขียนโครงการของบประมาณมาเพิ่มทุกปี สะพานขาดหนึ่งสาย สร้างฝายน้ำล้น สร้างถนน สร้างไฟฟ้าเพื่อการเกษตร ฯลฯ ล้วนต้องเขียนโครงการของบประมาณลงมาจากส่วนกลาง ถ้าโครงการไม่ผ่านปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไข บางครั้งยาวนานข้ามทศวรรษ จนหลายครั้งนายกฯ ท้องถิ่นต้องสร้างเส้นสายและระบบอุปถัมภ์กับราชการส่วนกลางและนักการเมืองระดับชาติ เพื่อให้ได้งบประมาณลงมาพัฒนาเมือง
นายธนาธร กล่าวด้วยว่า ตนจึงเห็นด้วยกับนโยบายกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกล เห็นพรรคได้นำเสนอเป็นนโยบายหลักมาโดยตลอด มีรูปธรรมแบบอธิบายได้ง่ายที่สุด คือการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในทุกจังหวัด หัวใจหลักคือการทำให้ช่องว่างระหว่างอำนาจ งบประมาณ และประชาชน มาอยู่ใกล้กันมากที่สุด เมื่อเอางบประมาณมาใกล้กับประชาชนมากขึ้น การแก้ปัญหาจะอยู่ในมือของประชาชนเอง แต่ละท้องถิ่นเลือกจัดการกันเอง
“ไม่มีใครในประเทศไทยรู้ปัญหาของทั้ง 7 พันตำบลได้ด้วยตัวคนเดียว แต่นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายใต้โครงสร้างรัฐรวมศูนย์แบบปัจจุบัน ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาของประชาชนได้ จากที่ติดตามมา ผมเห็นว่าพรรคก้าวไกลไม่เคยสัญญาว่าจะเอาโครงการนั้นโครงการนี้มาลงให้ที่ไหนเหมือนคนอื่น แต่สิ่งที่ผมเห็นเช่นเดียวกับทุกคน คือพรรคก้าวไกลต้องการให้เครื่องมือ เอาไปแก้ปัญหาของท้องถิ่นเองอย่างสอดคล้องกับความต้องการของคนพื้นที่จริง ๆ ทำให้ช่องว่างระหว่างประชาชนกับงบประมาณ ไม่ต้องผ่านตัวกลางในระบบราชการอีกต่อไป” นายธนาธร กล่าว