“ตั๋วช้าง”เพื่อไทย ผู้สมัครป่วน เขย่า กทม. โควตา“ขาใหญ่-ก๊กใหม่”

พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ฤกษ์เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. 33 เขต ในวันนี้ แม้ยังกังขา เรื่องการแบ่งเขตของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ไม่เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้ เนื่องจากการแบ่งเขตแบบเฉือนแขวง ซึ่งบางเขตเลือกตั้งมี 5 แขวง จาก 2-3 เขต มารวมกัน ทำให้หลายเขตที่พรรคเพื่อไทยมีฐานเสียงแน่นปึ้ก ต้องโดนจับแยกพื้นที่

เมื่อสังเคราะห์ลงในรายละเอียดแล้ว การแบ่งเขตของ กกต. อาจจะไม่ได้เข้าทางพรรคขั้วรัฐบาลข้างเดียว แต่กลับเข้าทางพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เช่นกัน เพราะการแยกเขต-แยกแขวง พรรคก้าวไกลมีแต้มเป็นของตัวเองอยู่แล้ว โดยไม่ต้องอาศัยคะแนนจัดตั้ง จึงน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า

สำหรับพรรคเพื่อไทย เมื่อ กกต.เคาะแบ่งเขตเลือกตั้ง บรรดา “แกนนำ กทม.” ต่างจัดวางเด็กในสังกัดให้อยู่ในลิสต์ 33 คนที่จะเป็นตัวแทนของพรรค แม้บางพื้นที่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จะติดป้ายหาเสียงไปแล้ว แต่ยังมีการเปลี่ยนตัวในนาทีสุดท้าย

“เดอะกิ๊ก” ณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ลูกชายของ “สาโรจน์ หงษ์ชูเวช” อดีตมือขวา “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในยุครุ่งเรือง ที่พักหลังกลับเข้ามามีบทบาทภายในพรรคเพื่อไทยระดับหนึ่ง แม้บารมีจะลดลงเยอะ แต่ยังปรากฎตัวทุกเวทีปราศรัย

โดย “ณณัฏฐ์” ถูกวางตัวให้ลงสมัคร ส.ส. กทม. เขตลาดพร้าว เจ้าตัวจึงเดินสายลงพื้นที่ ด้วยความหวังอยากนั่งเก้าอี้ ส.ส. ซึ่งก่อนหน้านี้ “ณณัฏฐ์” เดินสายอยู่ที่เขตสะพานสูง ซึ่งมีกระแสข่าวว่าไปทับพื้นที่กับลูกทีมของ “เสี่ยเอก” พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส. กทม. เขตคันนายาว จึงต้องยอมหลบมาพักร้อนที่เขตลาดพร้าว

ทว่าโผว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ต้องปรับเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อ “อรรฆรัตน์ นิติพน” หรือก้อง พิธีกรรายการอายุน้อยร้อยล้าน ว่ากันว่า มาเป็นเด็กสายตรงสังกัด “มดดำ” คชาภา ตันเจริญ พิธีกรชื่อดัง เปิดดีลให้มาลงสมัคร ส.ส.

“มดดำ” ถือตั๋วช้างมาจาก “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร รวมถึง “พี่โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร “แกนนำกทม.” จึงต้องหาที่ลงให้กับ “อรรฆรัตน์” หวยจึงมาออกที่ “ณณัฏฐ์” ต้องยอมหลีกทาง

“พลภูมิ” ปฏิบัติการหักหลัง “ณณัฏฐ์” ว่ากันว่า มีเงาของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี คอยเป็นแบ็คอัพให้ เมื่อวัดบารมีกับมือขวาตกขอบอย่าง “สาโรจน์” ย่อมมีพาวเวอร์เหนือกว่า

ทำให้ “พลภูมิ” ต้องโยก “อ๋อม” สกาวใจ พูนสวัสดิ์ เพื่อนรัก-เพื่อนเลิฟ จากเดิมที่วางตัวให้ลงเขตสะพานสูง มาลงเขตลาดพร้าว-บึงกุ่มแทน เปิดทางให้ “อรรฆรัตน์” ลงเขตประเวศ-สะพานสูงแทน

เนื่องจาก “พลภูมิ” มีฐานเสียงแข็งแกร่งในเขตคันนายาว-บึงกุ่มมาก่อน เมื่อแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ เขตบึงกุ่ม (ยกเว้นแขวงคลองกุ่ม) ถูกเฉือนมารวมกับเขตลาดพร้าว (ยกเว้นแขวงจระเข้บัว) การถ่ายโอนคะแนนเสียงจากเขตบึงกุ่มมาให้ “เพื่อนอ๋อม” ย่อมสะดวกใจ และเข้าทางปืนมากกว่า

มีกระแสข่าวว่าเที่ยวนี้ “พลภูมิ” หวังโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี จึงไม่แปลกที่พยายามจะสยายปีก ผลักดันเด็กในสังกัดมาลงสมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทยให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นฐานให้กับตัวเองได้เก้าอี้เสนาบดี
 

ขณะเดียวกันยังมีกรณีของ “เกรียงไกร จงเจริญ” อดีตผู้เสนอตัวลงสมัคร ส.ส. กทม. เขตบางแค พรรคเพื่อไทย ย้ายขั้วสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อลงชิงเก้าอี้ ส.ส. กทม. เขตบางแค

“เกรียงไกร” ลาออกจากราชการในตำแหน่ง ผอ.สำนักการศึกษา กทม. เพื่อมาทำงานการเมืองแม้จะเกษียณอายุราชการเดือน ก.ย. ปีนี้ โดยให้เหตุผลว่า “มีความตั้งใจจะมาดูแลปัญหาของประชาชนในพื้นที่เขตบางแค เนื่องจากมีความผูกพันกับประชาชนในพื้นที่และเคยเป็นอดีต ผอ.เขตบางแคมาก่อน”

แต่เมื่อ สมศักดิ์ เทพสุทิน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หอบเด็กสามมิตรมาเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย “กฤชนันท์ อัยยปัญญา” อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขตบางแค พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 “กฤชนันท์” ได้ 29,413 คะแนน แพ้ให้กับ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล ที่ได้ 29,590 คะแนน เพียงหลักร้อยคะแนน

โดยหลังการเลือกตั้ง “กฤชนันท์” ได้รับการปูนบำเหน็จจาก “สุริยะ” ให้นั่งเก้าอี้เลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม ชื่อของ “กฤชนันท์” จึงผูกพันกับกลุ่มสามมิตรมาได้ตลอด

ในช่วงที่ “สมศักดิ์-สุริยะ” ยังไม่ชัดเจนว่าจะย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ทั้ง “กฤชนันท์-เกรียงไกร” ติดป้ายหาเสียงพื้นที่เขตบางแคด้วยกันทั้งสองคน ทำเอาคนบางแคมึนงงไปตามกัน

แต่เมื่อ “สมศักดิ์-สุริยะ” เปิดตัวย้ายขั้วมาสังกัดพรรคเพื่อไทย ชื่อของ “กฤชนันท์” จึงถูกส่งให้ “บิ๊กเพื่อไทย” ขึ้นลิสต์ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางแค แทน “เกรียงไกร” ทั้งที่คะแนนตามผลโพลของพรรคเพื่อไทยดีกว่าก็ตาม

ทั้งกรณีของ “พลภูมิ” และ “สมศักดิ์-สุริยะ” ต่างต้องการส้องสุมกองกำลัง ส่งเด็กในสังกัดลงสมัคร ส.ส. เพื่อเติมเก้าอี้ ส.ส. เอาไว้ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี 

เช่นเดียวกับกระแสข่าว “บิ๊กเพื่อไทย” บางคน วางเกมให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ส่ง “กล้วย” มาวางมัดจำก่อน หากชนะเลือกตั้งค่อยมาเอาคืน พยายามบริหารจัดการให้ได้ ส.ส. เข้ากลุ่มให้มากที่สุดเช่นกัน