"พิธา" รับข้อเสนอ "ตะวัน-แบม" เลิก ม.112 ชูนิรโทษกรรมถึงปี 57 - ลงนาม ICC
"พิธา" รับข้อเสนอ "ตะวัน-แบม" ติดสติ๊กเกอร์ยกเลิก 112 ประกาศเลือก "ก้าวไกล" เป็นรัฐบาล นิรโทษกรรมคดีการเมืองถึงปี 57 - ลงนาม ICC - ทำรัฐธรรมนูญใหม่ต้านรัฐประหาร
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 ที่สวนสาธารณะเทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พรรคก้าวไกลจัดเวทีปราศรัยใหญ่ แนะนำนโยบายพรรคและแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ครบทั้ง 10 เขต โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัยปิดท้าย
ก่อนการปราศรัย "ตะวัน" น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ "แบม" น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมทางการเมือง ได้ขึ้นมาบนเวที ชูป้ายกระดาษโพลถามเรื่องการแก้ไข-ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนายพิธาได้แปะสติ๊กเกอร์ลงในช่องยกเลิก พร้อมกล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล ตนติดสติ๊กเกอร์ยกเลิก แต่ต้องขอโทษตะวันและแบมที่ต้องขอแก้ไขก่อน เพราะการแก้ไขจะทำให้โอกาสที่กฎหมายนี้ได้รับการแก้ไขในสภาฯ เป็นไปได้มากกว่า และหากมีภาคประชาชน เช่น กลุ่มคณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย.112) เสนอร่างกฎหมายเพื่อยกเลิกมาตรา 112 พรรคก้าวไกลก็จะสนับสนุนเช่นกัน แต่หากเสนอแก้ไขแล้ว สภาฯ ยังไม่ยอมให้แก้ เราจะยกเลิกด้วยกัน
“นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไม คนชลบุรีต้องเลือกผู้แทนของพรรคก้าวไกลเข้าไปให้เรามีเสียงมากพอแก้ไขปัญหาการเมือง เสนอกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนย้อนหลังไปถึงปี 2557 ลงสัตยาบันธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต่อต้านรัฐประหาร” นายพิธา กล่าว
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนเลือกมาที่ชลบุรีในวันนี้ 24 มีนาคม 2566 ย้อนหลังไป 4 ปีก่อน คือจุดกำเนิดของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ยุบสภาก็มาที่นี่เป็นที่แรกในการปราศรัย มี 2 เหตุผลหลัก หนึ่งคือเพื่อมาช่วย จรัส คุ้มไข่น้ำ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล และเป็น ส.ส.แรงงาน ช่วงที่เกิดโควิด จรัสเป็น ส.ส.ที่ลุกขึ้นพูดในสภาฯ ว่ารัฐบาลต้องขึ้นค่าแรงให้พี่น้องแรงงาน และทำงานร่วมกับปีกแรงงานของพรรคในการผลักดันให้คนทำงานนอกระบบเข้าถึงประกันสังคมอย่างถ้วนหน้า เลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจึงต้องเลือกคนที่ใส่ใจประชาชน คนที่เข้าใจหัวอกพี่น้องแรงงาน นอกจากนี้อีกเหตุผลที่มาชลบุรี ก็เพื่อยืนยันกับคนชลบุรีว่าพรรคส้มไม่มีส้มหล่น เกจิกูรูการเมืองอาจบอกว่าครั้งที่แล้วพรรคอนาคตใหม่ส้มหล่นเพราะมีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจ คือมีคนชลบุรีเป็นล้านคนที่รักประชาธิปไตย ยังไม่รวมคนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก ไม่เอาระบบอุปถัมภ์ ไม่เอาบ้านใหญ่ เพราะยิ่งบ้านใหญ่มีเยอะแค่ไหน ยิ่งสะท้อนว่าระบบประชาธิปไตยประเทศนั้นอ่อนแอ เห็นได้ว่าที่ผ่านมา ส.ส.ชลบุรี หลายคนไม่เข้าประชุมสภาฯ ตอนโหวตกฎหมายปลดล็อกท้องถิ่น บางคนงดออกเสียง ทั้งที่กฎหมายปลดล็อกท้องถิ่นเป็นการกระจายความเจริญมาที่พี่น้องชลบุรี
“ในช่วงที่มีการต่อสู้ห้ำหั่น ทิ้งหลักการ ย้ายพรรคกันฝุ่นตลบ พรรคก้าวไกลขอเป็นทางเลือกให้พี่น้องประชาชน ในขณะที่ยักษ์วัดโพธิ์สู้กับยักษ์วัดแจ้ง เราจะเป็นแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ เราทำได้มาแล้ว เราทำอยู่ และในการเลือกตั้งปี 2566 เราจะทำให้ดูอีกครั้ง” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ตนอยากให้คนชลบุรีเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกลทั้ง 10 คนนี้ เพื่อให้เรามี ส.ส. ในสภาฯ มากกว่านี้ ที่พร้อมสู้พร้อมชนเพื่อคนชลบุรี สร้างความเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่เข้าไปช่วยเรื่องปัญหาปากท้อง แต่ทำให้การเมืองแบบเดิมหายไป ไม่ให้ระบบประชาธิปไตยถูกต้ดตอนเหมือนที่ผ่านมา
“ไม่นานมานี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ บอกว่าถ้าคนไทยไม่ขัดแย้ง ก็ไม่มีรัฐประหาร ทำไมเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนไข ไม่ว่าคนไทยจะตีกันเองหรือไม่ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำรัฐประหาร ไม่อย่างนั้นคุณก็สร้างความขัดแย้งไปเรื่อยๆ แล้วอ้างเป็นเหตุผลให้ทำรัฐประหาร แช่แข็งประเทศไทย” นายพิธา กล่าว
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่า บัตรเลือกตั้งของประชาชนมีพลัง ถ้ามีความขัดแย้งก็ให้รัฐสภาเป็นพื้นที่ปลอดภัยพูดคุยกัน จึงขอโอกาสจากพี่น้องชลบุรีเลือกพรรคก้าวไกลเข้าไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ไม่ใช่แค่เปลี่ยนนายกฯ ให้ชลบุรีก้าวหน้าก้าวไกลกว่านี้ กาก้าวไกลให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต