“อุตตม” ชู นโยบาย 3 เร่งด่วน - 8 เร่งรัด “พปชร.” พลิกฟื้นเศรษฐกิจ
“อุตตม” ชู นโยบาย 3 เร่งด่วน แก้หนี้ ดูแลสวัสดิการ ยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย ควบคู่ - 8 เร่งรัด “พปชร.” พลิกฟื้นเศรษฐกิจ พลิกโฉมประเทศไทยให้ยั่งยืน
วันที่ 28 มี.ค. 2566 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ดร.อุตตม สาวนายน ประธานคณะกรรมการจัดทำนโยบาย พรรคพลังประชารัฐ ร่วมเสวนา “วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทย” ที่จัดขึ้นโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
ดร.อุตตม ได้แสดงวิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า ปรัชญาในการทำนโยบายเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ คือ ทำอย่างครบวงจร เริ่มตั้งแต่จัดทำยุทธศาสตร์โดยการระดมทุกภาคส่วน และนโยบายต้องทำได้จริง เพราะประเทศไทยไม่มีเวลาลองผิดลองถูก เราอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ
พรรคพลังประชารัฐ ขอนำเสนอแนวทางฟื้นเศรษฐกิจ พลิกโฉมประเทศไทย ให้ก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืน ด้วยนโยบาย 3 เร่งด่วน 8 เร่งรัด โดย 3 นโยบายเร่งด่วน คือ การแก้ไขปัญหาครบทุกมิติ ประกอบด้วย 1. แก้หนี้ประชาชน และผู้ประกอบการให้เบ็ดเสร็จ เติมทุนให้จริงจังด้วยวิธีใหม่ และสร้างโอกาสใหม่ โดยทำทันที
2. ดูแลสวัสดิการคนไทย เสริมทักษะ และพัฒนาคนไทย โดยมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งเป็นบัตรเพื่อการพัฒนา และดูแลสวัสดิการ 3. การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย และการลงทุนปฐมวัย ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
ขณะที่ 8 นโยบายเร่งรัด เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจให้โตยั่งยืน ประกอบด้วย 1. ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมภาคเกษตร และวิสาหกิจชุมชน พร้อมเชื่อมโยงเข้ากับภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว 2. ยกเครื่องภาคอุตสาหกรรมเดิม สร้างเศรษฐกิจใหม่สู่อุตสาหกรรม S-curve เพื่อให้อุตสาหกรรมประเทศขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจฐาน BCG
3. เร่งพัฒนาพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอีอีซี รวมถึงขยายพื้นที่ยุทธศาสตร์ใหม่ๆ ให้ทั่วทุกภาค 4. ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน ราง ทางน้ำ และอากาศ รวมไปถึงยกระดับโครงสร้างดิจิทัล พัฒนาเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมทั้งประเทศโดยเร็วที่สุดต้นทุนถูก เพื่อต่อยอดพร้อมเพย์ และเป๋าตัง ให้คนไทยเข้าสู่ Digital Economy อย่างแท้จริง
5. พัฒนาทรัพยากรมนุษย์รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยให้นักเรียน นักศึกษาระดับอาชีวะ ปวส. เรียนฟรีมีงานทำ ด้วยการทำแพลตฟอร์มเชื่อมแหล่งงานกับสถานศึกษา นักศึกษาสามารถเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยได้ ขณะที่แรงงานเดิมจะส่งเสริมให้เข้าสู่โปรแกรมยกระดับทักษะให้ตรงกับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ไปพร้อมกัน 6. ปฏิรูประบบราชการ และแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค เพื่อส่งเสริมให้เกิดเอสเอ็มอีที่มีความเข้มแข็ง
7. ปฏิรูประบบงบประมาณ และกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการผลักดันงบประมาณในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อเข้าสู่งบประมาณสมดุลในระยะยาว ขณะที่การกระจายอำนาจท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมงบประมาณไปขับเคลื่อนให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง สามารถบริหารจัดการเพื่อตอบสนองความต้องการของพื้นที่ได้อย่างตรงจุด และ 8. ต่อต้านคอร์รัปชันเต็มรูปแบบ สร้างระบบการจัดซื้อ จัดจ้างภาครัฐที่ลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ มีการเพิ่มโทษนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชันเป็นสองเท่า รวมถึงมีเทคโนโลยีบล็อกเชนที่จะนำมาใช้ในโครงการประมูลภาครัฐขนาดใหญ่
นอกจากนี้ ดร.อุตตม ยังได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันว่า เรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ถือเป็นอุปสรรคใหญ่ที่บั่นทอน และขัดขวางการพัฒนาประเทศมาโดยตลอด โดยทีดีอาร์ไอ เคยประเมินไว้ว่าในแต่ละปีความสูญเสียจากการทุจริตคอร์รัปชันอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท
การแก้ปัญหาดังกล่าว เกี่ยวข้องกับทุกฝ่าย ซึ่งจะต้องดำเนินการ 2 เรื่องสำคัญ คือ 1. ประชาชนมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์เปิดเผยเรื่องทุจริต 2. ภาครัฐ ต้องนำเรื่องเทคโนโลยีแพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามาใช้ในการให้บริการ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และสามารถติดตามได้อย่างรวดเร็ว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์