ความหวังต่อรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่

ในขณะที่ไทยต้องการแหล่งเงินและการลงทุนใหม่เข้ามา ทำให้นายกรัฐมนตรีออกมายืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญการลงทุนและมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนต่อเนื่อง โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีพยายามรับฟังความเห็นของหน่วยงานเศรษฐกิจและภาคธุรกิจที่มีข้อเสนอมากมาย ซึ่งรัฐบาลต้องนำมาจัดลำดับความสำคัญตามทรัพยากรที่มี โดยเฉพาะการที่รัฐบาลกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา 5 กลุ่ม ครอบคลุมมาตรการอสังหาริมทรัพย์ มาตรการลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการภาคการเกษตร มาตรการการท่องเที่ยวและบริการ และมาตรการการบริโภคภาคประชาชนและการแก้ปัญหาหนี้สิน ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น รวมถึงสร้างเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่

ภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจหลักสำคัญที่มีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง จำนวนมาก เช่น การก่อสร้าง การผลิตวัสดุ ก่อสร้าง การผลิตเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งมีผลต่อการจ้างงาน ซึ่งรัฐบาลเตรียมทั้งมาตรการด้านสินเชื่อและมาตรการให้เช่าที่ดินจากภาครัฐเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย โดยเป็นมาตรการที่ดีแต่เมื่อถึงการปฏิบัติจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพราะที่ผ่านมานโยบายที่เกี่ยวข้องกับที่ดินจะมีปัญหาเรื่องสิทธิการใช้ที่ดินรัฐมาตลอด

ในขณะที่มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลจำเป็นต้องรักษาความสามารถในการแข่งขัน เพื่อยกระดับ value-chain และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งการออกมาตรการของขวัญปีใหม่ 2568 เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและการเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้นจำเป็นที่ต้องวางแผนรองรับการพัฒนาการท่องเที่ยวระยะยาวทั้งในด้านโปรดักต์ที่จะจูงใจ และโครงสร้างพื้นที่ที่จะรองรับการท่องเที่ยว

รัฐบาลชุดปัจจุบันเข้าทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินครบ 3 เดือน แล้ว ซึ่งยังมีหลายคำถามต่อแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องผลักดันแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจที่วางไว้ให้ออกมาเป็นรูปธรรมทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะมาตรการระยะยาวที่จะมีผลทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เต็มศักยภาพในอนาคต และทำให้ไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง