พปชร.พร้อมเชื่อมทุกพรรค "ประวิตร"ไม่รีบจับขั้ว ยันไม่ใช่มือทำรัฐประหาร
"บิ๊กป้อม" นำทัพ พปชร.ปราศรัยใหญ่แปดริ้ว ไม่รีบตอบจับมือกับใคร กลัวเขาไม่จับด้วย ยันไม่ใช่มือทำรัฐประหาร แค่ช่วย "ประยุทธ์" ขณะที่ “สนธิรัตน์”มั่นใจหลังเลือกตั้งได้รัฐบาลผสม หัวหน้า พปชร.พร้อมเป็นกาวใจเชื่อมโยงทุกพรรค ชี้บารมีสูงสุดในบรรดาว่าที่นายกฯ คุยได้ทุกคน
19 เม.ย.66 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ลานวัดสมานรัตนาราม ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้ง พร้อมเปิดตัว 4 ผู้สมัคร ประกอบด้วย นายรัฐสภา นพเกต เขต 1 นายนายอรรถกร ศิริลัทธยากร เขต 2 นายสายัณห์ นิราช เขต 3 และ พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ เขต 4 โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมเวทีอย่างคึกคัก ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก
สำหรับกิจกรรมบนเวทีเริ่มตั้งแต่ 17.30 น. โดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง เปิดปราศรัยเป็นคนแรก ว่า อีก 3 สัปดาห์กว่าๆ ประชาชนจะตัดสินเลือกคนที่รักเลือกพรรคที่ชอบ วันนี้พรรคพลังประชารัฐ ตั้งใจมาขอคะแนนชาวแปดริ้ว พร้อมแนะเวลาเลือกผู้แทน เราต้องเลือกคนที่อยู่ในพรรคที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลมากที่สุด ก็คือพลังประชารัฐ เพราะบรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า ไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้รัฐบาลผสมแน่นอน ไม่มีใครชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่ประกาศนโยบายชัดเจนว่าไม่เป็นศัตรูกับใคร แต่ขอเป็นกาวใจให้การเมืองหลังเลือกตั้ง พาประชาชนไปสู่ความกินดีอยู่ดี
ดังนั้น 14 พ.ค. นี้ อย่าให้คะแนนตกน้ำ เลือกพรรคที่เป็นรัฐบาล กาเบอร์ 37 อาสาทำการเมืองหลังการเลือกตั้งไม่ตีกัน ไม่ขัดแย้ง แม้เห็นต่างก็ต้องรักกัน พลังประชารัฐจะเป็นกาวใจเชื่อมโยงทุกฝ่ายตัดตั้งรัฐบาล
“ในบรรดาว่าที่นายกรัฐมนตรีมีใครมีบารมีสูงสุด คุยกับทุกคนได้ พรรคพลังประชารัฐภูมิใจนำเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่จะเป็นกาวใจเชื่อมโยงทุกฝ่ายไม่ให้ทะเลาะกัน มีประสบการณ์ มีบารมี ตั้งใจพาก้าวข้ามความขัดแย้ง และเรากล้าบอกว่าเป็นพรรคที่รวมขุนพลเศรษฐกิจที่คนทั้งประเทศบอกว่าดีที่สุดในทุกพรรคการเมือง” นายสนธิรัตน์ กล่าว
ต่อมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์หลังปราศรัยบนเวทีหาเสียง ถึงความคาดหวังในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ก็ต้องหวัง มาทั้งทีแล้ว จะไม่ได้ยังไง ผู้สมัครก็เก่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถสู้กับ ส.ส.เก่า ที่ย้ายไปอยู่พรรคอื่นได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครจะย้ายก็ย้ายไป ก็บอกไปแล้ว
เมื่อถามต่อว่าจะสู้ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า แล้วคุณตอบได้ไหม
สำหรับจดหมายฉบับที่ 9 ที่เผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊ก มีนัยอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ไม่มีอะไรหรอก เป็นการบอกเรื่องเก่า”
เมื่อถามว่า มีการระบุว่าไม่มีสัจจะในทางการเมือง ก่อนเลือกตั้งอย่างหนึ่ง หลังเลือกตั้งอย่างหนึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "มันแล้วแต่คน แต่สำหรับผมมีสัจจะ การจะหมายถึงทุกคนไม่มีสัจจะ พูดอย่างนี้ไม่ได้ เพราะเหมือนไปดูถูกเขา"
ต่อข้อถามว่า เห็นในเพจเฟซบุ๊กมีการยกตัวอย่างกรณี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรองหัวหน้าพรรค พปชร. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ก่อนเลือกตั้งพูดอย่างหนึ่ง แต่หลังเลือกตั้งปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นั่นเขาอยากไปเอง แต่ไม่ว่าอะไรหรอก ตนไม่เคยว่าใครเลย ไม่ว่าใครก็ตามจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ก็คนไทยด้วยกัน รักกันทุกคน ตนอยากจะให้ก้าวข้ามความความขัดแย้ง อยากให้รักกันทุกคน
ส่วนการจับมือกับพรรคการเมืองอื่นหลังเลือกตั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ต้องรอดูเสียงที่ได้เข้ามาก่อน จะไปตอบก่อนได้อย่างไร ถ้าเราจับ แต่เขาไม่จับด้วย จะทำอย่างไร"
เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณจับมือกับใครใช่หรือไม่ หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ระบุจะไม่จับมือกับคนที่ทำรัฐประหาร โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็แล้วแต่ ก็ผมไม่ได้ทำหนิ ผมไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ได้ทำ ผมมาช่วยท่านนายกฯ เท่านั้นเอง”
เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขของการทำรัฐประหาร ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีหรอก
พล.อ.ประวิตร ยังย้ำด้วยว่า รอให้ผลการเลือกตั้งออกมาก่อน แล้วค่อยมาถามว่าจะคุยกับใคร เพราะถ้าถามแบบนี้ ก็ไปคิดเอาเอง
เมื่อถามถึงนโยบายลดค่าไฟ ที่เพิ่งประกาศออกมา คิดว่าจะมีส่วนช่วยให้คะแนนโพลกระเตื้องขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า “แล้วคุณชอบรึเปล่าล่ะ ชอบไหม ลดค่าไฟ ค่านํ้า ค่านํ้ามัน ลด 18 บาท ไม่เอาหรอ ไม่เอาก็ไม่เป็นไร ไม่เอาก็ไม่ต้องเลือกผม ถ้าเอาก็เลือกผม”
ส่วนจะมีนโยบายใหม่ๆ ออกมาอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ออกมาก็ถือว่าใหม่แล้ว ส่วนจะมีอะไรใหม่ออกมาอีกหรือไม่ ไม่บอก
เมื่อถามว่า จะมีการปล่อยหมัดเด็ดอะไรในช่วงโค้งสุดท้ายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะให้ปรับอะไรอีกล่ะ