“มาดามเดียร์” อัดแจกเงินดิจิตอล-บัตรสวัสดิการ ไม่แก้ปัญหาอย่างแท้จริง
ทีม ปชป. กทม. เยือนบางขุนเทียน จัดกิจกรรมรถโชว์โพลีซี “องอาจ” การันตีตระกูลม่วงศิริไม่เคยทิ้งพื้นที่ ขณะที่ “มาดามเดียร์” อัดนโยบายแจกเงินดิจิตอล-บัตรสวัสดิการ ไม่แก้ปัญหาอย่างแท้จริง ด้าน “ดร.เอ้” ขอโอกาสทำงาน เลือกทั้งคนทั้งพรรค
21 เม.ย.2566
ที่ลานกิจกรรม โครงการบ้านเอื้ออาทร บางขุนเทียน1
พรรคประชาธิปัตย์ จัดกิจกรรมรถโชว์โพลีซี (Policy Road Show) นำโดย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานทำงานนวัตกรรมการเมือง ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พร้อมด้วยการแนะนำตัวและขอเสียงสนับสนุน นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตจอมทอง-บางขุนเทียน หมายเลข 12
โดยนายองอาจ กล่าวว่า ตระกูลม่วงศิริเป็นตระกูลที่รับใช้พี่น้องประชาชนมายาวนานมาก ตั้งแต่รุ่นพ่อ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งนายสุวัฒน์นั้นเคยเป็นอดีต ส.ส. หลายสมัย และเป็นคนติดดินอยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมาโดยตลอด และแม้ว่าในวันที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งก็ไม่ได้ทิ้งประชาชนและพื้นที่ไปไหน และขอยืนยันว่าหากไม่ได้ทำงานเป็นที่ประทับใจของประชาชน เชื่อว่าคนฝั่งธน ย่านบางขุนเทียน บางบอน จอมทอง จะไม่เลือกคนในตระกูลม่วงศิริ ที่มีทั้ง ส.ก. ส.ข. มากมายหลายสิบปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าตระกูลม่วงศิริได้ทำงานรับใช้ดูแลประชาชนใกล้ชิดมาโดยตลอด และเชื่อว่าทุกคนรู้ดีว่าตระกูลม่วงศิรินี้ทำงานรับใช้ประชาชน โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ขออย่าลืมเลือกนายสุวัฒน์ หมายเลข 12 และเลือกพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 ด้วย
ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า วันนี้การที่ตนตัดสินใจมาสู่การทำงานการเมือง ก็เพื่อต้องการเห็นบ้านเมืองนี้ มีอากาศที่ดีให้ประชาชนได้หายใจ เพราะทุกวันนี้อากาศของเราแย่เต็มไปด้วยฝุ่น PM 2.5 จำนวนมาก หายใจเข้าไปก็จะก่อให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย ซึ่งตนนั้นมีความรู้ความสามารถที่จะทำให้บ้านเมืองได้เกิดความเปลี่ยนแปลง จึงเลือกที่จะมาอยู่ตรงนี้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้โอกาสตนในการทำสิ่งนี้และไม่เคยคิดว่าการออกมาอยู่ตรงนี้คือการเสียสละเวลาที่ดูแลครอบครัว แต่อยากทำงานเพื่อประชาชน จะคุ้มหรือไม่คุ้ม ซึ่งวันนี้ที่หลายพรรคการเมืองมีการให้เงินประชาชนนั้น ขอถามว่าเขาความรักความห่วงใยให้กับประชาชนมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับตนสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ตนเอง ก้าวเดินออกมาแก้ปัญหาในสิ่งที่ใหญ่ที่สุด คือ เรื่องน้ำท่วม และเรื่องการศึกษา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ตนทำให้ลูกตัวเองและลูกหลานของพี่น้องประชาชนในอนาคต จึงขอโอกาสจากทุกคนให้ตนได้ทำ และขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ทั้งพรรคทั้งคน
ด้าน น.ส.วทันยา ได้เริ่มด้วยการตั้งคำถามว่า คะแนนที่เคยให้กับผู้แทนคนก่อนหน้านี้ไปนั้น เขาได้กลับมาดูแลเราบ้างหรือไม่ หากไม่ได้มาดูแล ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ยังจะเลือกคนเดิมอยู่หรือไม่ วันนี้ตนจึงอยากชวนทุกคนเปลี่ยนมาเลือกนายสุวัฒน์ ม่วงศิริ หมายเลข 12 ที่แม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองก็ไม่เคยทิ้งพี่น้องประชาชนและพื้นที่ วันนี้ตนเชื่อว่าทุกคนมีคำตอบแล้วว่าจะเลือกใคร แล้วใครคือคนที่รักและหวังดีกับเราจริง โดยเฉพาะในช่วงที่เราเดือดร้อนลำบาก ไม่ใช่มาหาเราเพียงแค่ช่วงที่ต้องการคะแนน
“เขาบอกว่าเวลาเราจะดูว่าใครที่รักเราจริง ใครห่วงใยเราจริง ใครหวังดีกับเราจริง เขาให้ดูกันในตอนที่เราลำบาก นั่นคือบทพิสูจน์ที่สำคัญ เดียร์มั่นใจว่าวันนี้ตระกูลม่วงศิริได้พิสูจน์ให้พวกเรารู้แล้วจริงๆ ว่าม่วงศิริเท่านั้นที่เป็นห่วงคนเอื้ออาทรบางขุนเทียน เป็นห่วงคนท่าข้ามจริงๆ” น.ส.วทันยา กล่าว
น.ส.วทันยา ยังได้เน้นย้ำถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้เกิดมาจากกระบวนการ ฟัง-คิด-ทำ โดยหนึ่งในนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะปัญหาหนี้นอกระบบ คือ นโยบายธนาคารชุมชนละ 2 ล้านบาท ที่ผ่านมามีพรรคหนึ่งที่บอกว่าเป็นเขาเป็นประชาธิปไตย จะแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท แต่มีเงื่อนไขใช้ได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น แล้วคำถามเงินดิจิตอลที่อยู่ในมือถือ จะนำไปจ่ายหนี้นอกระบบได้หรือไม่ เงินดูเหมือนจะเยอะ แต่เอามาตอบโจทย์อะไรเราได้บ้าง รวมถึงยังมีบางพรรคการเมืองบอกมีบัตรสวัสดิการให้ประชาชน และจะเพิ่มวงเงินให้ ซึ่งพรรคหนึ่งบอกจะให้ 700 บาท อีกพรรคหนึ่งบอกให้ 1,000 บาท ขอถามว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาชีวิตเราได้หรือไม่ หากเราอยากทำธุรกิจ อยากออกไปเป็นพ่อค้าแม่ค้า เงินนี้จะสามารถทำให้เราออกไปตั้งตัวได้หรือไม่ เงิน 700 บาท หรือ 1,000 บาท วันนี้เจอเพียงค่าไฟที่แพงขึ้นขนาดนี้ ค่าแก๊สที่แพงขึ้นขนาดนี้ ก็ไม่พอแล้ว จึงขอย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์เราไม่ได้ต้องการแก้ปัญหาแบบฉาบฉวย แต่เรามองว่าเราจะเพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้อย่างไร เพื่อให้สามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองได้
ขณะที่ นายสุวัฒน์ ได้แนะนำตัวกับชาวบ้านเอื้ออาทรบางขุนเทียน1 โดยย้ำถึงการทำงานของตระกูลม่วงศิริ ที่มีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ รุ่นสู่รุ่น ไม่เคยทิ้งประชาชน ดังนั้นขอให้เลือกผู้แทนที่ไว้ใจได้ เพื่อผลักดันนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ไปสู่ความสำเร็จ