"สุวัจน์" พร้อมจับมือ "เพื่อไทย" ตั้งรัฐบาล หากได้เสียงเป็นอันดับหนึ่ง
"สุวัจน์" พร้อมสนับสนุนการสร้างความเชื่อมั่นทางการเมือง พร้อมรวมเสียงกับพรรคอันดับหนึ่ง ตั้งรัฐบาล วอน "กกต." จับตาการซื้อเสียง หวั่นมีผลกระทบกับความเชื่อมั่นผลเลือกตั้ง
ที่ จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้าและแคนดิเดตนายกฯ , นายเทวัญ ลิปตพัลล เลขาธิการพรรค ฐานะผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต1 พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขต และแกนนำพรรค ร่วมจัดเวทีปราศรัยใหญ่ เวทีที่3 ในพื้นที่จ.นครราชสีมา ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
โดยก่อนการขึ้นเวทีปราศรัย นายสุวัจน์ พร้อมผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้า เข้าสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และ เสด็จพ่อ ร.5 เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนขึ้นเวที และได้เดินทักทายประชาชนที่มารอฟังการปราศรัย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ทั้งนี้นายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์ว่าบรรยากาศของการหาเสียงเลือกตั้งมีความคึกคัก และตนประเมินว่าการเลือกตั้งรอบนี้ประชาชนให้ความคาดหวังไว้สูง ต้องการการแก้ปัญหาโดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นพรรคชาติพัฒนากล้าจึงมีนโยบายเพื่อที่จะแก้ไข อย่างไรก็ดีในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งตนกังวลต่อการซื้อสิทธิขายเสียง ดังนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีหน้าที่กำกับดูแลการเลือกตั้งต้องทำหน้าที่ของตนเองให้เต็มที่ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในผลเลือกตั้งและการเลือกตั้งมีความชอบธรรม อีกทั้งการใช้เงินซื้อเสียง ตนมองว่าทำให้ไม่ได้ผู้แทนตามระบอบประชาธิปไตย
“ที่ผ่านมาการเมืองมีปัญหา ดังนั้นรัฐบาลใหม่คือความคาดหวังของประชาชน ส่วนที่ขณะนี้การหาเสียงโค้งสุดท้ายพบการแย่งเสียงแยกขั้วนั้น ผมมองว่าเป็นธรรมดา แต่ขออย่าให้เกิดความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งนั้นแก้ปัญหาไม่ได้” นายสุวัจน์ กล่าว
เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้าในการจับมือร่วมรัฐบาล นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคยังไม่ได้หารือหรือคุยกับใคร แต่พรรคพร้อมสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะถือว่าได้รับฉันทามติจากประชาชน และตามประเพณีการเมืองพรรคที่ได้รับเลือกตั้งเป็นอันหนึ่งควรได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน ดังนั้นตนจึงต้องการสร้างความเชื่อมั่น และความชอบธรรมทางการเมืองตามกติกา
“เมื่อพรรคที่ชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่งเท่ากับได้รับฉันทามติจากประชาชน จึงควรได้รับสิทธิในการฟอร์มรัฐบาล และรวบรวมเสียงที่เพียงพอตามรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นความสะดวกต่อการจัดตั้งรัฐบาล ยกเว้นพรรคที่หนึ่งรวบรวมเสียงได้ไม่ถึงครึ่งบ้านเมืองจะเกิดทางตันไม่ได้ ต้องให้พรรคที่ได้เสียงลำดับถัดไปดำเนินการ ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่ผ่านมา” นายสุวัจน์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าโพลตอนนี้ชี้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นอันดับหนึ่ง พรรคพร้อมจับมือกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่ากระแสตามโพลเป็นเพียงแค่โพล ดังนั้นต้องรอดูผลการเลือกตั้ง แต่พรรคชาติพัฒนากล้าที่ผ่านมาเข้าได้กับทุกฝ่าย และนิยมทำงานการเมืองแบบหันหน้าเข้าหากัน ประนีประนอม และใช้การพูดคุย ดังนั้นเราไม่เป็นศัตรูทางการเมืองกับท่านหนึ่งท่านใด การตัดสินใจของพรรคจะยึดถือแบบอย่างและประเพณี ใครที่มาเป็นลำดับหนึ่งควรเป็นคนที่เราสนับสนุน.