“สมศักดิ์” ลั่น “พท.” กวาดส.ส.เมืองสองแคว ได้มากกว่าเดิมแน่

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ คณะกรรมการทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นายวิวรรธนไชย ณกาฬสินธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส.หลายสมัย ได้ลงพื้นที่ปราศรัยจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 2 จุด คือ ห้องประชุมพิษณุโลกคอนเวนชั่น ดิอิมพีเรียล โอเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ พิษณุโลก อำเภอเมือง และ ศูนย์ประสานงานแผนพัฒนาท้องถิ่น ประจำอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อปราศรัยช่วย น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลกเขต 1 เบอร์ 1 บุตรสาว นายสุชน ชามพูนท อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย และอดีตส.ส.พิษณุโลก 14 สมัย รวมถึง นายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 3 เบอร์ 2 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชน เข้าร่วม 2 เวทีกว่า 8,000 คน 

โดยก่อนขึ้นเวทีปราศรัย นายสมศักดิ์ พร้อมด้วยน.ส.ณัฐทรัชต์ ได้ลงพื้นที่ตลาดร่วมใจ อำเภอเมืองพิษณุโลก เพื่อเดินพบปะกับพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายใช้สอยในตลาด ซึ่งพ่อค้าแม่ค้า ได้สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจ ที่อยากให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ช่วยส่งเสริมให้เกิดกำลังการซื้อให้คึกคักเหมือนเดิม โดยตลอดการเดินแจกบัตรแนะนำตัวผู้สมัคร ได้มีพี่น้องประชาชน เข้ามามอบดอกไม้ และถ่ายรูป เพื่อเป็นกำลังใจจำนวนมาก 

จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยว่า ชาวพิษณุโลก จะภาคภูมิใจความสามารถของน.ส.ณัฐทรัชต์ ที่จะเข้าไปเป็นดาวในสภาฯ ซึ่งตนดีใจแทน ที่จังหวัดพิษณุโลก เขต 1 จะมีผู้แทนจากพรรคเพื่อไทย เพื่อเข้าไปช่วยขับเคลื่อนนโยบายต่างๆให้เกิดขึ้นจริง แต่พี่น้องประชาชน ก็ต้องช่วยกันเลือกทั้งคน และพรรค เบอร์ 29 เพื่อจะได้ให้ทุกนโยบายสามารถขับเคลื่อนได้ ทั้งเติมเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ส่งเสริมเกษตรกร เพิ่มพื้นที่ชลประทาน เปลี่ยน สปก.เป็นโฉนด รวมถึงนโยบายปราบปรามยาเสพติดแบบเข้มข้น โดยการแก้ปัญหายาเสพติด จะใช้เวลาเห็นผลใน1 ปี เพราะตนได้ทำกฎหมายรองรับไว้แล้ว ด้วยการเพิ่มมาตรการยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด ทำให้นโยบายการแก้ปัญหายาเสพติด ของพรรคเพื่อไทย สามารถทำได้ทันทีเมื่อได้เป็นรัฐบาล 

ขณะที่ น.ส.ณัฐทรัชต์ กล่าวว่า ในอดีตหลายนโยบายของพรรคเพื่อไทย สามารถทำสำเร็จมาแล้ว ทั้ง จบปริญญาตรี เริ่ม 15,000 บาท บ้านหลังแรก รถคันแรก ซึ่งพี่น้องประชาชน จำกันได้หรือไม่ว่าขณะนั้น เราอยู่กันสุขสบายขนาดไหน แต่มาวันนี้ หลังมีการยึดอำนาจ เราเหลืออะไรกันบ้าง โดยลูกหลานของหลายบ้าน ต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา เพราะไม่มีเงินเพียงพอหรือ เรียนจบมา ก็เจอปัญหาไม่มีงานทำ ซึ่งพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เข้ามาแก้ปัญหาแบบหยอดน้ำข้าวต้ม แต่เราจะพาทุกคนออกจากไอซียู ด้วยนโยบายเติมเงินกระเป๋าดิจิทัล 1 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ในชุมชน โดยอย่าไปหลงเชื่อที่บอกว่า พรรคเพื่อไทย ไม่สามารถทำได้และทำไม่เป็น ทั้งที่ในอดีตพรรคเพื่อไทย ก็มีผลงานจำนวนมากเป็นสิ่งการันตีอยู่แล้ว ซึ่งถ้าพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล ความยากจนก็จะต้องหมดไป ดังนั้น ตนขอโอกาสพี่น้องชาวพิษณุโลก เข้าไปช่วยขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ เพราะตนเกิดและโตที่นี่ โดยเห็นจังหวัดพิษณุโลกมาตั้งแต่เด็ก ผ่านการทำงานของคุณพ่อ และคุณแม่ ที่ได้มอบชีวิตนี้ให้กับแผ่นดินไปแล้ว ตนจึงพร้อมที่จะเข้ามาสานต่อ ทำให้พิษณุโลกวันพรุ่งนี้ จะไปได้ดีกว่านี้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า วันนี้ตนได้เปิดเวทีปราศรัย 2 เวที รวมถึงได้ลงพื้นที่เดินตลาดเช้า พบปะกับพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งเสียงตอบรับดีมาก เพราะพี่น้องประชาชน อยากให้พรรคเพื่อไทย เข้ามาแก้ปัญหาให้ เนื่องจากในตลาดกำลังซื้อไม่ค่อยดีเหมือนในอดีต ตนจึงได้แนะนำนโยบายที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดกำลังการซื้อ ด้วยการเติมเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท โดยจะทำให้ตลาดการซื้อขายคึกคักอย่างแน่นอน ซึ่งพี่น้องประชาชนเมื่อฟังแล้ว ก็มีความเข้าใจและเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ ส่วนผู้สมัครส.ส.พิษณุโลก ตนก็ขอเน้นย้ำว่า เป็นผู้ที่มีความตั้งใจ ขยัน เป็นปากเสียงให้กับพี่น้องประชาชนได้ ทำให้ตนมั่นใจว่า จะมีดาวสภาจากจังหวัดพิษณุโลกอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จังหวัดพิษณุโลก 5 เขต จะแลนด์สไลด์หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลกจะแลนด์สไลด์หรือไม่ ยังไม่สามารถประเมินได้ แต่ขณะนี้ตนเชื่อมั่นว่าจะได้ผู้แทนมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน โดยการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ได้ผู้แทน จำนวน 2 คนแต่ครั้งนี้ จากการได้สัมผัสกับพี่น้องประชาชน ทำให้มั่นใจว่า ได้มากขึ้นแน่นอน ส่วนในช่วงโค้งสุดท้าย ตนจะประเมินอีกครั้งว่า พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง พรรคเพื่อไทย จะได้ผู้แทนเพิ่มขึ้นจำนวนเท่าไหร่ และมีจังหวัดไหนบ้างที่จะแลนด์สไลด์ยกจังหวัด

จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมด้วยนายจเด็ศ ได้ลงพื้นรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน จำนวน 2 จุด ในพื้นที่อำเภอเนินมะปราง เพื่อรับฟังปัญหาแหล่งน้ำ และปัญหาที่ดิน สปก. ที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มมะม่วง เพื่อนำเสนอนโยบายทั้งการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน และการเปลี่ยน สปก.เป็นโฉนดเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร