โพล 66 วิสัยทัศน์คนไทย..เกี่ยวอะไรกับเดนมาร์ก?! | ชิดตะวัน ชนะกุล
ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองไทย ในการเลือกตั้ง 2566 โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรากฏสาระว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คนไทยให้ความสำคัญปัญหาคอร์รัปชันมากกว่าเรื่องปากท้อง
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ต้องการให้รัฐบาลใหม่จัดการกับการทุจริตคอร์รัปชันเป็นลำดับแรก ตามด้วยเรื่องการศึกษา และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
เป็นที่น่าสังเกตว่าร้อยละ 83.6 ของผู้ตอบระบุว่า จะไม่เลือกพรรคการเมืองที่ไม่มีนโยบายต่อต้านการคอร์รัปชัน เพราะต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงภาคการเมืองไทย
ขณะที่อีกร้อยละ 16.4 ไม่สนใจ เพราะมองว่าคอร์รัปชันเป็นเรื่องปกติของเมืองไทย
เมื่อพิจารณาดัชนีการรับรู้คอร์รัปชัน (Corruption Perception Index) ของ 180 ประเทศทั่วโลกในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา พบว่าเดนมาร์ก เป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชันต่ำที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นเพียงปี 2552 2554 และ 2560 ที่ตกไปอยู่ลำดับที่ 2
ในขณะที่ประเทศไทยมีการคอร์รัปชันอยู่ในลำดับระหว่าง 76-110
ผลการศึกษาโดยองค์กรความโปร่งใสนานาชาติเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับการทุจริตของประเทศเดนมาร์ก สรุปว่า วัฒนธรรมความซื่อสัตย์สุจริต ที่แข็งแกร่งเป็นรากฐานสำคัญในการต่อต้านคอร์รัปชัน
กล่าวคือ เยาวชนเติบโตมาในสังคมที่ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างที่ดี ระบบการศึกษาปลูกฝังให้คนรู้จักสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบที่แต่ละคนมีต่อสังคม การบริหารราชการแผ่นดินยึดหลักเปิดเผย เป็นธรรม และปฏิบัติอย่างเสมอภาคต่อคนทุกระดับ
หลักการเหล่านี้ถูกนำมาใช้อย่างจริงจังในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
ในภาพรวม เดนมาร์กไม่ค่อยมีกฎหรือข้อกำหนดเกี่ยวกับวินัย จรรยาบรรณ และแนวทางในการต่อต้านการทุจริต แต่ความรับผิดชอบที่สูงในการทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ทำให้บุคคลปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์
เดนมาร์กได้รับการกล่าวขานจากนานาชาติว่าเป็นสังคมไร้วัฒนธรรมการติดสินบน กล่าวคือ การให้สินบนและการจ่ายเงินเพื่อเร่งการเข้าถึงบริการสาธารณะต่างๆ แทบจะไม่มีปรากฏ
ผลการสำรวจโดย Eurobarometer ในปี 2562 พบประเด็นที่น่าสนใจว่า ผู้ตอบแบบสอบถามกว่าร้อยละ 99 ไม่เคยพบการเรียกสินบน ของขวัญ หรือแม้แต่สินน้ำใจจากเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อสิทธิต่างๆ ในภาพรวมชาวเดนมาร์กมองว่าสถาบันและเจ้าหน้าที่ไม่ทุจริต
Christian Bjørnskov ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่ง Aarhus University สรุปว่า “เรามีวัฒนธรรมความซื่อสัตย์ในระดับสูงมาก ทำให้ผู้คนไม่คิดที่จะจ่ายหรือรับสินบน ซึ่งเป็นเช่นนี้มากว่า 150 ปีแล้ว”
เมื่อพิจารณาสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายพบว่า สินบนและการจ่ายเงิน นอกเหนือจากที่กำหนดตามกฎหมาย เพื่อแลกกับการดูแลที่ดีหรือการเอื้อประโยชน์จากผู้บังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องผิดปกติ
ตำรวจ อัยการ และผู้พิพากษาในเดนมาร์กได้รับความไว้วางใจจากสาธารณชนในระดับสูง
ผลการสำรวจโดย Eurobarometer ในปี 2565 พบว่า องค์กรตำรวจ อัยการ ศาล รวมถึงหน่วยงานด้านการจัดเก็บภาษีเป็นสถาบันที่มีการทุจริตต่ำที่สุดในเดนมาร์ก
แม้ว่าเดนมาร์กเป็นดินแดนที่การคอร์รัปชันแทบจะไม่มีปรากฏ แต่หน่วยงานต่างๆ ของเดนมาร์กและสมาคมระดับประเทศก็ยังได้เผยแพร่แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีหลีกเลี่ยงและจัดการกับการทุจริต
อาทิ กระทรวงการต่างประเทศประกาศนโยบาย “ความอดทนต่อการคอร์รัปชันเป็นศูนย์” (policy of zero tolerance towards corruption) เพื่อรักษามาตรฐานสูงสุดของความซื่อสัตย์และจรรยาบรรณในการทำงานของพนักงานทุกระดับในทุกกิจกรรม
กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อตอบสนองทันทีเมื่อเกิดข้อสงสัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่ขาดความรับผิดชอบ การประพฤติมิชอบ และการทุจริต
มีการรายงานความคืบหน้าการสอบสวนแต่ละกรณีทางเว็บไซต์ของกระทรวงฯ เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานภายนอกสามารถตรวจสอบได้
เพราะการทุจริต ซึ่งก็คือ การใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบเพื่อประโยชน์ส่วนตนไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงใด เป็นสิ่งที่มิสามารถยอมรับได้ในสังคมเดนมาร์ก
แม้ว่าการเลือกตั้งของไทยครั้งนี้ พรรคการเมืองส่วนใหญ่ยังมิได้ชูนโยบายปราบปรามการคอร์รัปชันอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ดี ผลโพลเป็นนิมิตหมายอันดีทำให้เห็นว่า เนื้อแท้จิตวิญญาณคนไทยมีคุณธรรมไม่ต่างจากชนในชาติที่พัฒนาแล้ว ต้องการขจัดภัยร้ายคือการคอร์รัปชันให้หมดไปจากสังคม
พรรคการเมืองใดก็ตามที่ก้าวขึ้นมาเป็นรัฐบาลใหม่ ต้องนำความคิดประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบาย บริหารราชการแผ่นดินด้วยความโปร่งใส
ขจัดการทุจริตทุกระดับโดยไม่เลือกปฏิบัติ ปฏิรูประบบการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดการศึกษาที่เป็นไปเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ เป็นสุจริตชน ตระหนักอย่างสูงสุดถึงความรับผิดชอบที่ตนต้องมีต่อสังคมเฉกเช่นชาวเดนมาร์ก
นอกจากนี้ ชาวไทยทุกคนควรร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แลกผลประโยชน์ของชาติด้วยผลตอบแทนส่วนตน...และเมื่อถึงวันนั้น...สังคมอบอุ่นไร้การคอร์รัปชันคงเกิดขึ้นได้บนผืนแผ่นดินอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน.