‘ก้าวไกล’แรงแซง‘ขั้วประชาธิปไตย’จุดยืน“มีลุง ไม่มีเรา” จุดติด
‘ก้าวไกล’แรงแซง‘ขั้วประชาธิปไตย’ จุดยืน“มีลุง ไม่มีเรา” จุดติด ลุ้นเพื่อไทยแก้เกม 100 เมตรสุดท้าย “ขั้วอนุรักษ์นิยม”กทม.ชั้นใน ชั้นกลาง ฉุด "ประยุทธ์-รทสช.-ปชป.”
นับถอยหลังวันกาบัตรเลือกตั้ง ที่ทุกพรรคเร่งขับเคี่ยวกันอย่างหนัก ทั้งปรับกลยุทธ์ หมัดเด็ด 100 เมตรสุดท้าย เอาไว้พิชิตศึกเลือกตั้ง
วาทกรรมการเมือง ที่ทยอยถูกปล่อยออกมาหวังปลุกกระแสยกสุดท้าย ให้เข้าเป้า ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งแฟนคลับ ฐานเสียง โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังลังเล ที่จะเลือกพรรคที่ชอบ คนที่ใช่ เพราะกติกาบัตรสองใบ มีผลต่อการตัดสินใจไม่น้อย
ทว่า ความขัดแย้งนานนับหลายสิบปี ทำให้การเมืองไทยถูกแบ่งเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน โดยเฉพาะปัจจุบัน “ขั้วเสรีนิยม” และ “ขั้วอนุรักษ์นิยม” ซึ่งมีอุดมการณ์แตกต่างกันสุดขั้วสุดโต่ง
“ขั้วเสรีนิยม” ในนิยามของพรรคการเมืองแบบไทย เรียกตัวเองว่า “ขั้วประชาธิปไตย” ชั่วโมงนี้กระแสของพรรคก้าวไกล มาแรงติดลมบน สวนทางการกับพรรคเพื่อไทย ที่ฟอร์มดร็อปลงหลังโดนโจมตีทางการเมืองปมความชัดเจนในการจับขั้วตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะดีลลับกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่ชัดเจนตั้งแต่ต้น
เมื่อ “นายใหญ่”เพื่อไทย มีเดิมพันกลับบ้าน จึงถูกมองถึงการวางเกมลึก เชื่อมสัมพันธ์ลับกับ “หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ก็ส่งผลกระทบต่อความนิยมของ “เพื่อไทย” ไม่น้อย
ยิ่งล่าสุด โทนี่ ทักษิณ ชินวัตร สื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียอีกครั้งถึงการกลับบ้านจริงจัง เมื่อหลานคนที่ 7 ลืมตาดูโลกว่า “หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็ว ๆ นี้ครับ ขออนุญาตนะครับ”
ไม่ว่าท่าทีของทักษิณ จะถูกตีความเป็นแผนปลุกแลนด์สไลด์โค้งสุดท้ายหรือไม่ แต่ก็ทำให้ทั้งกองเชียร์และกองแช่งหันมาสนใจกระแสนี้กันอีกครั้ง
ขณะที่บรรดา “ขุนพลเพื่อไทย” ทั้งในห้องแอร์ ในภาคสนาม ก็ต้องประสานความร่วมมือ งัดกลยุทธ์ปลุกเลือก “ขั้ว” ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.และเขตเมือง สนามคนเมืองจะเสียเก้าอี้ ส.ส. ให้พรรคก้าวไกลได้ ซึ่งจะส่งผลต่อภารกิจชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์อย่างแน่นอน
ดังนั้นคู่แข่งของ “เพื่อไทย” ไม่ใช่ขั้วรัฐบาลปัจจุบันอีกต่อไป แต่เป็นพรรคก้าวไกล แคมเปญเลือกให้ขาด หรือโหวตเชิงยุทธศาสตร์เหมือนช่วงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อาจจะต้องนำกลับมาใช้ และต้องสร้างกระแสอย่างเร่งด่วน เมื่อ พิธา หัวหน้าก้าวไกล จุดติดวาทกรรมเลือกข้าง “มีลุง ไม่มีเรา มีเรา ไม่มีลุง” ไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ “ก้าวไกล”จะมีเสียจังหวะ ปมเสี่ยงเพลี่ยงพล้ำเกมบนดิน โดยเฉพาะดราม่าเรื่องเล่ารัฐประหาร 2549 ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อยู่บ้าง แต่พรรคซึ่งอยู่ในช่วงขาขึ้น จึงมองว่าไม่จำเป็นต้องชี้แจงทุกปม เพราะหากตกอยู่ในเกมที่คู่แข่งจ้องซ้ำเอาไว้ อาจจะทำให้เสียสมาธิจนส่งผลด้านลบต่อพรรค “แกนนำก้าวไกล” จึงสั่งการให้ลูกพรรคโฟกัสภารกิจของตัวเอง
เมื่อเงื่อนไขจัดตั้งรัฐบาล “เพื่อไทย” จับมือ “ก้าวไกล” ยังลักปิดลักเปิด เพราะขึ้นอยู่กับตัวเลขจริงหลังเลือกตั้ง
แต่ในยามนี้ กองเชียร์เพื่อไทย ก็ยังอ่านทางว่า “นายใหญ่” คงไม่อยากเสี่ยงเปิดโต๊ะดีลกับ “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพราะหากเดินหมากพลาด “หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” ซึ่งไม่ไว้ใจ “นายใหญ่” เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาจจะแผลงฤทธิ์-แผลงศร ปิดประตูกลับบ้าน กำจัดพรรคเพื่อไทยได้เช่นกัน
ทำให้โจทย์ของ “นายใหญ่เพื่อไทย” เวลานี้ จึงต้องชนะแลนด์สไลด์เท่านั้น เพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว หรือจับมือกับพรรคขั้วรัฐบาลที่ไม่มี “3 ป.-ขุนทหาร” อยู่เบื้องหลัง
ขณะเดียวกันกระแสมาแรงของ “ก้าวไกล” ทำให้เกิดแรงเหวี่ยงคืนชีพ “อนุรักษ์นิยม” ให้กลับมาผนึกกันเหนียวแน่นกว่าเดิม เพราะจุดยืนทางการเมืองของ “ก้าวไกล” ขัดกับความเชื่อของ “อนุรักษ์นิยม” อย่างสิ้นเชิง
มีการประเมินจาก “พรรคสายกลาง” พบว่าแต้มการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในพื้นที่กทม.มีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งความนิยมในตัวของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค รทสช. โดยเฉพาะพื้นที่กทม.ชั้นใน กทม.ชั้นกลาง ซึ่งมีคะแนนของ “อนุรักษ์นิยม” มากพอสมควร
ยุทธศาสตร์ปลุกกระแส “อนุรักษ์นิยม” มีแกนนำ รทสช.วางเกมเอาไว้แล้ว เตรียมจะปล่อยหมัดเด็ดในช่วง 1 สัปดาห์ ก่อนวันเลือกตั้ง เพื่อดึงคะแนนให้ไหลกลับมาที่ตัวของ “ประยุทธ์” แต่จะสำเร็จหรือไม่ต้องรอวัดกันจนนาทีสุดท้าย
ส่วนโจทย์ใหญ่ของ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีวิธีการอย่างไรที่จะขอเข้ามาแชร์แต้ม “อนุรักษ์นิยม” ที่เมื่อถึงเวลาต้องเลือกอาจจะเทให้ “รทสช.” หรือ “ปชป.” พรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะหากกองเชียร์รักพี่เสียดายน้อง มีการแบ่งแต้ม อาจมีโอกาสแพ้ทั้งกระดานก็เป็นได้
ดังนั้นปรากฎการณ์ “ก้าวไกล” มาแรงแซงขั้วประชาธิปไตย แม้จะเป็นผลดีต่อพรรคเอง แต่ก็ส่งผลกระทบต่อขั้วเดียวกันอย่าง “เพื่อไทย”เท่านั้น
ในทางกลับกัน อีกด้านก็ไม่เป็นผลร้ายต่อขั้วตรงข้ามเสียทีเดียว เมื่อ"ขั้วอนุรักษ์นิยม" เริ่มมีกระแส ผนึกกำลังช่วย “ประยุทธ์-รทสช.-ปชป.” ไม่ให้สูญพันธุ์ โดยเฉพาะในสนามเมืองหลวง