"ธนาธร" ทัวร์อีสาน "ก้าวไกล" ไม่สุดโต่ง ยกผลโพล ปชช.เห็นด้วย แก้ปัญหาถึงราก
"ธนาธร" เดินสายหาเสียงอีสาน ขอนแก่น-อุดร-กาฬสินธุ์ ย้ำโอกาสในการเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุดอยู่ที่ "ก้าวไกล" ยันไม่สุดโต่ง ยกผลโพลประชาชนเห็นด้วย ลั่นแก้ปัญหาให้ถึงต้นตอ ต้องทำวันนี้ ไม่ส่งต่อให้คนรุ่นต่อไป
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2566 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เดินสายร่วมกิจกรรมหาเสียงในภาคอีสานต่อเนื่อง เริ่มต้นแต่เช้าตรู่ที่ อ.เมืองขอนแก่น โดยแห่รถและปราศรัยหน้าตลาดบางลำภูขอนแก่น ร่วมกับ วีรนันท์ ฮวดศรี ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 (เบอร์ 4) ต่อมาเดินทางต่อไปยัง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ขึ้นรถแห่ไปรอบอำเภอ ร่วมกับ สุริยา วงศ์อารีย์ ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 7 (เบอร์ 1)
จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยัง จ.อุดรธานี ที่ อ.ศรีธาตุ ร่วมขึ้นรถแห่ไปรอบอำเภอ และเปิดปราศรัยที่ อ.ไชยวาน ร่วมกับ อานันท์ อมรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 6 (เบอร์ 1) ก่อนเดินทางเข้าตัว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ร่วมเวทีปราศรัยขนาดย่อมที่วัดโพธิ์คำ ร่วมกับ ชวลิต กงเพชร ผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 (เบอร์ 7) ก่อนปิดท้ายการหาเสียงของวันนี้ ที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ร่วมกับ ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 3 (เบอร์ 4)
ช่วงหนึ่งของการปราศรัย นายธนาธร กล่าวว่า ในรอบ 17 ปีที่ผ่านมาหลังการรัฐประหาร 2549 นี่คือช่วงเวลาที่ฝ่ายอนุรักษนิยมอ่อนแรงที่สุดแล้ว ทำให้การเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 คือโอกาสที่ดีที่สุดแล้วในการแก้ปัญหาของประเทศให้ถึงต้นตอ มีหลายเรื่องที่ต้องทำเพื่อไม่ให้เกิดการรัฐประหารในประเทศไทยขึ้นอีก และต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อไม่ให้เด็กที่เกิดตั้งแต่ 2560 เป็นต้นไป ต้องเจอกับรัฐประหารอีก
"แม้จะถูกกล่าวหาโจมตีว่าเป็นแนวคิดที่สุดโต่ง แต่จากความนิยมที่มากขึ้นของพรรคก้าวไกล จนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลได้รับความนิยมมาเป็นที่หนึ่งในโพลต่างๆ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าประชาชนตอบรับข้อเสนอของพรรคก้าวไกล ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องสุดโต่ง และมีความเข้าใจดีว่าข้อกล่าวหาของฝ่ายตรงข้ามล้วนแต่เป็นเรื่องเลื่อนลอยทั้งสิ้น" นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวด้วยว่า ในวันที่โอกาสเปิดกว้างขนาดนี้ ถ้าไม่ทำวันนี้จะทำวันไหน จะรออีกกี่ปีโอกาสแบบนี้ถึงจะมาอีก ในอีก 9 วันที่เหลือนี้ หากทุกคนช่วยกัน พรรคก้าวไกลมีโอกาสที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ เป็นรัฐบาลที่ถือเอาภารกิจส่งมอบสังคมที่ดีจากรุ่นเราให้กับรุ่นลูกรุ่นหลาน เพราะฉะนั้นอย่าเสียโอกาสนี้ไป
“ถ้าเราไม่แก้ปัญหายากๆ แบบนี้ มันหมายความว่าเรากำลังเอาปัญหาซุกไว้ใต้พรม แกล้งมองไม่เห็นมัน แล้วส่งต่อปัญหาให้คนรุ่นต่อไปรับไปแก้ต่อ ทำไมเราไม่กล้าเผชิญปัญหาให้เสร็จไปวันนี้ คนรุ่นต่อไปจะได้ไปดูแลสิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์เทคโนโลยีที่เป็นปัญหาของยุคสมัย ไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาของยุคเราอีก” นายธนาธร กล่าว