วิชามาร ‘นักเลือกตั้ง’ เกมใต้ดิน-สู้กระแสพรรค

วิชามาร ‘นักเลือกตั้ง’ เกมใต้ดิน-สู้กระแสพรรค

“วิชามาร-เกมใต้ดิน” ยังมีหลายวิธีการที่ใช้ล่อใจโหวตเตอร์ เพื่อให้ “นักเลือกตั้ง” ได้นั่งเก้าอี้ ส.ส. เพราะเดิมพันทั้งชีวิตการเมืองอยู่ที่เก้าอี้ ส.ส. หลายคนหากพลาดหวัง อำนาจ-บารมี แทบหมดลงทันที

การต่อสู้ทางการเมือง เพื่อให้ได้เก้าอี้ ส.ส. มีทั้งเกมบนดิน-เกมใต้ดิน บางพรรคการเมืองกระแสตอบรับดี การจะพึ่งพาเกมใต้ดินย่อมลดลง แตกต่างจากบางพรรคการเมืองแทบไม่มีกระแส จึงต้องหวังพึ่งบริการเกมใต้ดิน

แต่ไม่ใช่ว่า “นักเลือกตั้ง” จะมีวิทยายุทธ์แกร่งกล้าเหมือนกันทุกคน มีหลายช่ำชองจนคว่ำคู่แข่งลงได้ และมีหลายคนไม่ช่ำชองมากพอจนมีภัยถึงตัว โดนตัดสิทธิทางการเมืองก็มีให้เห็นมาแล้ว

โดย “วิชามาร” ของ “นักเลือกตั้ง” ต่างยุคต่างสมัย มีความแตกต่างกันมาก ยิ่งในยุคสมัยโซเชียลมีเดียครองโลก จะเดินสายแจก “ปัจจัยยังชีพ” เหมือนเก่าก่อนคงตกเป็นเป้าโจมตี

วิธีเก็บบัตรประชาชน แม้จะโบราณแต่ยังมีให้เห็น เพราะเป็นวิธีการที่ได้ผลมากที่สุด สูตรแรกเก็บบัตรประชาชนเอาไว้ที่ “หัวคะแนน” ก่อนจะแจกจ่ายในวันเลือกตั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่รับ “ปัจจัยยังชีพ” จากฝั่งตรงข้าม

สูตรสองมอบหมาย “หัวคะแนน” เก็บบัตรประชาชนในพื้นที่ที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นฐานเสียงของคู่แข่ง สูตรนี้ไม่ได้มุ่งหวังให้เลือกตัวผู้สมัคร แต่มุ่งหมายไม่ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เป็นการลดแต้ม-ลดคะแนนของคู่แข่ง
 

กลยุทธ ยิงกระสุน ของ “นักเลือกตั้ง” ยุคเก่ามี “คืนหมาหอน” คือวันสุดท้ายก่อนวันกาบัตรเพียงหนึ่งวัน แต่ยุคใหม่เมื่อเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันกาบัตร “คืนหมาหอน” มีเกือบทุกคืน เพราะคู่แข่งต่างต้องการเช็กให้ชัวร์ที่สุด

“นักเลือกตั้งบางคน” ใช้วิธียิงกระสุนก่อน เพื่อเช็กกระแสตอบรับ อีกทางหนึ่งเป็นการทดสอบ “คู่แข่ง” จะยิงกระสุนสู้หรือไม่ บางคนเกทับ บางคนยอมหมอบ ทว่าส่วนใหญ่จะมีการเกทับกันทันที ทำให้ระยะหลังต้องยิงกระสุนแข่งกัน 2-3 รอบ ก่อนที่จะมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งยอมถอย เพราะไม่สู้กำลังกระสุนของ “คู่แข่ง”

ขณะเดียวกันการเลือกตั้งครั้งนี้ มีการใช้วิธีจัดปราศรัยย่อยหลายเวที ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเวทีปราศรัยเกือบ 100% เกณฑ์ประชาชนมาฟัง “นักเลือกตั้ง” นำเสนอนโยบาย แนวคิดทางการเมือง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เลือกตัวเอง

โดยการเกณฑ์ประชาชนมักจะมีค่าใช้จ่าย ทว่า “นักเลือกตั้ง” ใช้วิธีจัดปราศรัยย่อยวนรอบหลายเวที ทำให้มีการเกณฑ์คนหลายครั้ง จึงเสมือนการ “ซื้อใจ” มัดจำกันล่วงหน้า ด้วยการแจกใบแนะนำตัวผู้สมัคร ก่อนจะมาเบิก “ปัจจัยยังชีพ” ในภายหลัง ซึ่งอาจจะมากกว่าการยิงกระสุนเสียอีก 
 

กลยุทธ “เปิดราคาต่อ-รอง” การแข่งขันชิงเก้าอี้ ส.ส. ระยะหลัง มีการพนันขันต่อมาเกี่ยวข้อง “นักเลือกตั้ง” บางคนมีแต้มต่อ มีโอกาสชนะเลือกตั้ง วงการพนันจึงออกราคาได้เสียเอาไว้สูงลิบ เพื่อล่อใจนักพนัน

ทว่าวิธีการของ “มวยรอง” ใช้วิธีการเปิดราคาได้เสียเอาไว้สูงลิบเช่น ซึ่งมักจะล่อใจให้โหวตเตอร์หาเลือกแทง “มวยรอง” แถมล่อใจให้โหวตเตอร์ออกไปเลือกตั้งมากขึ้น ขณะเดียวกัน “นักเลือกตั้ง” มวยต่อบางคน แกล้งเปิดราคาเป็นรอง เพื่อแก้เกมกลับเช่นกัน

กลยุทธ “ตัวเลขนำโชค” มีให้เห็นกันบ่อยครั้ง โดย “นักเลือกตั้ง” จะกว้านซื้อ “ล็อตเตอร์รี่” เพื่อแจกให้กับโหวตเตอร์ นำไปเสี่ยงโชคกันเอาเอง วิธีการดังกล่าวใช้การแพร่หลายในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีการ “เปิดเล่นหวยใต้ดินฟรี” ซึ่งจะมีโปรโมชั่นให้โหวตเตอร์ ด้วยการดีลกับ “เจ้ามือหวยใต้ดิน” ในพื้นที่ เปิดเล่นฟรีรอบแรกก่อนการเลือกตั้ง หากถูกหวยโหวตเตอร์รับเงินเต็มจำนวน แต่หากแทงผิดไม่ต้องเสียเงิน อย่างไรก็ตามจะเปิดให้เสี่ยงโชครอบสอง หาก “นักเลือกตั้ง” ได้รับชัยชนะ โดยเปิดให้แทงฟรีเหมือนเดิม

“วิชามาร-เกมใต้ดิน” ยังมีหลายวิธีการที่ใช้ล่อใจโหวตเตอร์ เพื่อให้ “นักเลือกตั้ง” ได้นั่งเก้าอี้ ส.ส. เพราะเดิมพันทั้งชีวิตการเมืองอยู่ที่เก้าอี้ ส.ส. หลายคนหากพลาดหวัง อำนาจ-บารมี แทบหมดลงทันที