"พิธา" ลั่นขอไม่มากเป็นนายกฯ 2 สมัย หยอดหวานรอ "เอก-ป๊อก-ช่อ" กลับมา
"พิธา" ลั่นขอไม่มาก เป็นนายกฯ 2 สมัย รอ 3 เพื่อนรัก "ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ" กลับมา เริ่มต้นสางปัญหาแรก ตัดวงจรรัฐประหารชั่วนิรันดร์ ชี้ คำตอบสุดท้ายชัดเจน ตรงไปตรงมา ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน หยอดหวาน รัก ปชช.ทุกคน
เมื่อเวลา 20.45 น. วันที่ 12 พ.ค. 2566 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชน กรุงเทพมหานคร (ไทย – ญี่ปุ่น) เขตดินแดง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย "คำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน" เพื่อรวมพลังประชาชนทั่วประเทศส่งก้าวไกลสู่ทำเนียบรัฐบาล นำโดยแกนนำพรรคก.ก. คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค, นายชัยธวัช ตุลาธนเลขาธิการพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตรแสงกนกกุล, น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ
นายพิธา กล่าวแนะนำตัวว่า เรียนพี่น้องที่เคารพทั้งหลาย ผมพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไปของประเทศไทยครับ วันนี้เวลาของพวกเราได้มาถึงแล้ว คำตอบสุดท้ายกาก้าวไกลทั้งแผ่นดิน เหลือเวลาอีกเพียงสองวันที่เราทุกคนจะร่วมกันขีดเขียนประวัติศาสตร์การเมืองไทย กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม วันนี้ผมพร้อมแล้วที่จะเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน ให้ทุกคนสามารถฝากความหวังและความฝันกับผมได้ ตอนนี้ขอเเนะนำเพื่อรักของผม คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิช วันนี้คบเพลิงอยู่ในมือของผมผมจะไม่มีวันให้มันดับ เราจะเดินหน้าทำความฝันของเราให้เป็นจริง และรอคอยให้พวกคุณกลับมา และผมขอไม่มากขอเป็นนายกฯ 2 สมัยก็พอ
นายพิธา กล่าวว่า ความฝันของเราคือความเรียบง่าย เป็นเรื่องอากาศ ดิน น้ำ ลม และไฟ ในวันที่คุณเกษียณ รัฐบาลจะดูแลคุณมากกว่าแค่ไข่ต้มฟองเดียว เราแค่อยากจะเห็นรัฐธรรมนูญใหม่ โดยประชาชน เพื่อประชาชน ต้องการเห็นการกระจายอำนาจที่เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยตัวเอง
โดยระหว่างปราศรัยได้มีคนตะโกนว่า “ส้มรักพ่อ” นายพิธาจึงตอบว่า “พ่อก็รักส้มครับ และพ่อก็รักฟ้าด้วยครับ และพ่อก็รักประชาชนทุกคนด้วยครับ” เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์
นายพิธา กล่าวต่อวว่า เมื่อนำความฝันของเรารวมกันก็จะได้เท่านี้ แต่ในขณะเดียวกันข้อจำกัดทางการเมืองมันใหญ่ขนาดนี้ ดังนั้นผู้นำคนต่อไปต้องเป็นนายกฯ ที่พร้อมจะแก้ปัญหาเก่าเผชิญหน้าใหม่ และพร้อมพาประเทศไทยไปสู่อนาคตใหม่ไปด้วยกัน การจะหยุดแช่แข็งประทศได้ นายกฯ คนใหม่ ต้องแก้ปัญหาที่ติดหล่มมา 17 ปี โดยมี 2 ขยักคือ ขยักแรก คือการยุติวงจรรัฐประหารชั่วนิรันดร์ โดยการปฏิรูปกองทัพให้อยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน มีทหารเป็นมืออาชีพ จิ๋วแต่แจ๋ว และขยักที่สองเราต้องคืนศรัทธาให้ระบบรัฐสภา และระบบประชาธิปไตยของประเทศไทย
นายพิธา กล่าวว่า เมื่อเราหลุดออกจากหล่มการเมืองได้ เราต้องกล้าเผชิญปัญหาใหม่ได้เช่นเดียวกัน เมื่อมีความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องปะทะกับความเชื่อแบบเก่าๆ สิ่งที่คนรุ่นใหม่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ คือมรดกตกทอดจากคนรุ่นเก่า จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ที่เวลาปราศรัยยังบอกเลยว่าออกมาเยอะเดี๋ยวเขาจะล้มล้าง ออกมาเยอะๆ เดี๋ยวเขาจะพังวังแล้ว พระราชฐานะและพระราชอำนาจของสถาบันฯ ควรอยู่เหนือการเมืองและอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญอยู่เป็นเพราะคนรุ่นเราไม่ใช่หรือ ที่นำสถาบันฯ ลงมาโจมตีทางการเมืองตลอดเวลา และยัดคดีมาตรา 112 ให้คนเห็นต่าง ถ้าใครเห็นแล้วรู้สึกโกรธกับสิ่งที่คนรุ่นใหม่แสดงออกมา เราต้องตั้งสติให้ดีว่าเป็นเพราะพวกเราในสมัยก่อน ฉะนั้น นายกฯ คนต่อไปต้องสามารถที่จะเป็นนายกฯ ในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข สามารถวางพระราชอำนาจ และพระราชฐานะอย่างปราณีตเพื่อให้ความสัมพันธ์ของสถาบันฯ และประชาชนดีขึ้นต่างหาก วันนี้ตนพร้อมแล้วที่จะเป็นนายกฯ ของทุกคน คำตอบสุดท้ายชัดเจน ตรงไปตรงมา ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน ประชาชนฝันใหญ่ กาก้าวไกล ไปด้วยกัน