อัยการรับสำนวนคดี "อุปกิต" แล้ว ชง อสส.ชี้ขาดคดีฟอกเงิน นัดฟังคำสั่ง 26 ก.ค.
อัยการรับสำนวนคดี "ส.ว.อุปกิต" เเล้ว เห็นสมควรฟ้องทั้งฟอกเงิน-อาชญากรรมข้ามชาติ ชงให้ อสส.พิจารณาชี้ขาด นัดฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ 26 ก.ค.
เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนที่ อสส.มอบหมายได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว และได้นำตัวนายอุปกิตพร้อมกับสำนวนการสอบสวนมาส่งให้กับสำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อเสนอ อสส.พิจารณาสั่งคดีต่อไปแล้ว ซึ่งสำนักงานคดียาเสพติดได้นัดฟังคำสั่ง อสส.ในวันที่ 26 ก.ค.
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานร่วมสอบสวนเเละคณะพนักงานสอบสวน บช.ปส.3ได้นำตัวนายอุปกิตพร้อมสำนวนการสอบสวน ที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องกว่า 79 เเฟ้มมายื่นด้วยตนเอง
สำหรับคดีนี้นายอุปกิต ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์พัวพันกับขบวนการยาเสพติดและการฟอกเงินกับนายทุน มิน หลัดหรือ ตุน มิน ลัต ชาวเมียนมาที่ถูกตำรวจไทยจับเรื่องในเรื่องเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน เมื่อ 17 ก.ย. 2565 ซึ่งอำนาจการสอบสวนเป็นของอัยการสูงสุดซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในความผิดนอกราชอาณาจักรตาม ป.วิอาญามาตรา 20 จึงได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการสอบสวนกับ บช.ปส.3 ร่วมกันเป็นพนักงานสอบสวน ซึ่งคณะพนักงานร่วมสอบสวนได้ทำการสอบสวนในหลายประเด็น รวมถึงประเด็นที่มีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาก่อนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง เสนอไปยังอัยการสูงสุดผ่านทางสำนักงานอัยการคดียาเสพติดเพื่อพิจารณามีคำสั่งทางคดีต่อไป