รู้จักร้านสูท ‘ทรงสมัยซังฮี้’ ขาประจำ ‘ก้าวไกล’ รายได้ปี 64 กว่า 50 ล.
ทำความรู้จักร้านสูท ‘ทรงสมัยซังฮี้’ ขาประจำ ‘ก้าวไกล’ พาพลพรรคสีส้มไปตัด แต่งตัวเตรียมพร้อมนั่งเก้าอี้นายกฯ เข้าทำเนียบฯ-สภาฯ พบรายได้ปี 64 กว่า 50 ล้านบาท
ยังไม่ทันนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ดูเหมือนว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล รวมถึงพลพรรค “สีส้ม” จะมั่นใจ เตรียมตัวพร้อมบริหารประเทศกันแล้ว
ด้วยเสียงของ “พรรคก้าวไกล” ที่เข้าป้ายลำดับ 1 ในการเลือกตั้ง 2566 ได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ รวม 151 คน (ตามข้อมูลล่าสุดของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.) ทิ้งห่าง “พรรคเพื่อไทย” ที่ได้ ส.ส.รวม 141 คน
“พรรคสีส้ม” จึงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไปโดยปริยาย โดยเมื่อ 22 พ.ค. 2566 มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วม (MOU) ระหว่าง 8 พรรคการเมือง เพื่อเตรียมจัดตั้งรัฐบาลกันแล้ว
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วง “ฝุ่นตลบ” ในการแย่งชิงอำนาจว่าใครจะได้เก้าอี้ “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” รวมถึงแบ่งเค้กเก้าอี้ “รัฐมนตรี” กันก็ตาม แต่ปัจจัยสำคัญสูงสุดคือการเจรจาขอเสียง ส.ว. ให้ได้อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 65 เสียง เพื่อให้เสียงใน 2 สภาฯเกิน 376 เสียง “พิธา” จึงจะโอกาสนั่งเก้าอี้นายกฯ
แต่ “พิธา” และพลพรรคก้าวไกล ยังคงเชื่อใจ “พรรคเพื่อไทย” และมั่นใจ 8 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลว่าจะไม่มีใครทิ้งกัน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2566 แฟนเพจเฟซบุ๊ก ทรงสมัยซังฮี้ (สำนักงานใหญ่) ร้านสูทชื่อดังที่อยู่คู่ประเทศไทยมายาวนาน โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า “ขอขอบคุณพรรคก้าวไกลที่เลือกใช้บริการกับเราเสมอมา Congratulations to Move Forward Party from everyone at Songsmai. Pictured here is our specialists taking measurements of khun pita and his party members.”
โดยในภาพมีนายพิธา พร้อมด้วยแกนนำพรรคก้าวไกล เช่น นายพริษฐ์ วัชรสินธุ การรณรงค์สื่อสารนโยบายพรรคก้าวไกล และว่าที่ ส.ส.ของพรรค เดินทางมาตัดสูทกับร้าน “ทรงสมัย” นัยว่า เตรียมตัวเข้าสู่สภาฯอีกไม่นานนี้
สำหรับร้าน “ทรงสมัยซังฮี้” คือสาขาแรก และต้นตำหรับของร้านสูท “ทรงสมัย” ดำเนินกิจการมากว่า 60 ปี เป็นคู่สัญญากับภาครัฐ และเอกชนมากมาย ปัจจุบันการผลิตชุดสูทมีการเทคโนโลยีที่ทันสมัยผสมผสานกัน เพื่อผลิตสินค้าคุณภาพสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยมุ่งมั่นผลิตสินค้ามาตรฐานสูงเกินราคา ด้วยความซื่อสัตย์ จริงใจ รับผิดชอบ และรับประกันในคุณภาพสินค้าทุกชิ้น
สำหรับ บริษัท ทรงสมัยซังฮี้ สำนักงานใหญ่ มีบริษัทให้เครือทั้งหมด 8 สาขา มีโรงงานผลิตเป็นคนตัวเองทั้งหมด 2 สาขา
ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2566 พบว่า ร้านสูท “ทรงสมัยซังฮี้” มีชื่อบริษัทว่า บริษัท ทรงสมัย ซังฮี้ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 5 มี.ค. 2542 ทุนปัจจุบัน 4 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 213 ถนนสิรินธร แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ประกอบกิจการค้า ตัดเย็บเครื่องแต่งกาย
ปรากฏชื่อกรรมการ ดังนี้
- นายอิสระ กองเรืองกิจ
- นางจูน กิม กองเรืองกิจ
- นายเจสัน เอ็ดเวิด กองเรืองกิจ
- นายโจนาธาน พีรพล กองเรืองกิจ
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2566 มีทั้งหมด 6 คน โดยนายอิสระ กองเรืองกิจ ถือหุ้นใหญ่สุด 79.9975% มี 4 คนถือคนละ 5% ได้แก่นางจูน กิม กองเรืองกิจ น.ส.พิราวรรณ กองเรืองกิจ นายพีระพล กองเรืองกิจ นายเจสัน กองเรืองกิจ ส่วนนายเจียง ซ้ง เฉิน ถือ 0.0025%
นำส่งงบการเงินล่าสุด เมื่อปี 2564 มีสินทรัพย์รวม 89,919,880 บาท หนี้สินรวม 73,787,549 บาท มีรายได้รวม 50,548,248 บาท รายจ่ายรวม 49,722,991 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 2,460,681 บาท เสียภาษีเงินได้ 98,474 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,733,898 บาท
นายอิสระ กองเรืองกิจ ผู้ถือหุ้นใหญ่ในร้านสูท “ทรงสมัยซังฮี้” ยังปรากฏชื่อกรรมการอีกอย่างน้อย 3 แห่ง ยังดำเนินกิจการอยู่ 2 แห่ง ได้แก่
- บริษัท ทรงสมัย เมืองทองธานี จำกัด ทุนปัจจุบัน 2 ล้านบาท ประกอบกิจการค้าตัดเย็บเครื่องแต่งกายตามคำสั่งของลูกค้า รายได้ปี 2564 รวม 1,726,844 บาท กำไรสุทธิ 79,929 บาท
- บริษัท 3 พลัส ไลติ้ง จำกัด ทุนปัจจุบัน 8 ล้านบาท ประกอบกิจการค้าหลอดไฟฟ้าประเภทต่างๆ ทั้งปลีกและส่ง รายได้ปี 2564 รวม 59,111 บาท กำไรสุทธิ 37,540 บาท
ส่วนอีกหนึ่งแห่ง ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า “ร้าง” คือ บริษัท พิจิตร การ์เมนท์ จำกัด ประกอบการตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป ร้างเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2544
ทั้งหมดคือข้อมูลในมุมธุรกิจของร้านสูท “ทรงสมัยซังฮี้” ที่ได้รับความไว้วางใจจาก “ก้าวไกล” มาตัดสูทหลายครั้ง ตามโพสต์ของร้าน
สุดท้ายการตัดสูทครั้งนี้ของ “พิธา” และพลพรรคสีส้ม จะได้ใส่เข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศหรือไม่ ยังเหลือการขบเหลี่ยมเฉือนคมอีกหลายยก กว่าจะถึงตอนนั้น ต้องจับตาดูกันต่อไป