เมื่อเจน Z เข้าสภา พาญี่ปุ่น‘ก้าวไกล’
เบบี้บูมเมอร์ มิลเลนเนียลอาวุโสถอยไป คนหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นกำลังเข้ามาเล่นการเมือง สร้างความหวังเกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมสูงวัย สภาเต็มไปด้วยชายสูงอายุ
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ช่วงปลายเดือน เม.ย. ญี่ปุ่นจัดเลือกตั้งซ่อม ได้นักการเมืองหน้าใหม่ซึ่งมีความหลากหลายจำนวนหนึ่งเข้าสู่การเมืองระดับชาติ ผู้สนับสนุนต่างเฉลิมฉลองในฐานะจุดเปลี่ยนอันน่ายินดีสู่รัฐบาลญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่เป็นชายสูงวัยหัวอนุรักษนิยม
ข้อมูลจากสหภาพรัฐสภาระหว่างประเทศ พบว่า สมาชิกส่วนใหญ่ของสภาญี่ปุ่นอยู่ในวัย 50-70 ปี และ 75% เป็นผู้ชาย แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ เรียวสุเกะ ทาคาชิมะ วัย 26 ปี กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งในฐานะนายกเทศมนตรีอายุน้อยสุดของประเทศ เขาเพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเมื่อปีก่อน ได้ปริญญาตรีด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
“การมีอายุน้อยผมคิดว่าเป็นโอกาสให้ประชาชนรู้สึกใกล้ชิดกับผมมากขึ้น เพราะผมไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง จึงสามารถถามสิ่งที่ไม่เข้าใจได้ เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง แล้วสะท้อนทัศนะส่วนตัวของผมให้พวกเขาทราบ” ทาคาชิมะ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
นายกเทศมนตรีอายุน้อยสุดของญี่ปุ่นคนก่อนหน้านี้คือโคทาโร ชิชิดะ ได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 1994 ขณะอายุ 27 ปี
สำหรับทาคาชิมะ เขาหาเสียงเรื่องแผนการโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว ให้คำมั่นสร้างพื้นที่สาธารณะและสวนสาธารณะเพิ่ม ปฏิรูปการศึกษา การดูแลเด็ก และดูแลสุขภาพวัยรุ่น เข้าทำหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองอะชิยะ จ.เฮียวโงะเมื่อวันที่ 1 พ.ค.
นักการเมืองหน้าใหม่อีกหนึ่งคนคือยูทูเบอร์ วัย 26 ปี ที่ลงเลือกตั้งสภาเมืองฮิราสึกะ โดยใช้ชื่อ “ชิน ยูทูเบอร์ ฮิราสึกะ” ชินยังบริหารร้านการ์ดโปเกมอน แต่ช่องยูทูบของเขาเป็นที่รู้จักมากกว่า เขาใช้ช่องทางนี้เผยแพร่วีดิโอเกี่ยวกับร้านค้าท้องถิ่นและงานในเมือง วีดิโอที่มียอดวิวมากที่สุดคือการแนะนำ 10 ร้านราเม็งในฮิราสึกะ
ตอนทำคลิปเหล่านี้โดยต้องพูดคุยกับเจ้าของธุรกิจท้องถิ่นนี่เองที่ชินได้รับรู้ปัญหาและคำโอดครวญของพวกเขา สร้างแรงบันดาลใจให้ชินลงเลือกตั้งสมาชิกสภาเมือง ตามที่เว็บไซต์ของเขาบรรยายว่า สร้างบรรยากาศการเมืองที่เคยซบเซาให้แช่มชื่นขึ้นมาทันตาเห็น
“นักการเมืองญี่ปุ่นมีแต่แก่ๆ ฮิราสึกะมีโรงเรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยหลายแห่ง จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนหนุ่มสาวใช้ชีวิตอยู่ที่นี่” เว็บไซต์ชินโฆษณา
ในฐานะคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวของลูกชาย วัย 3 ขวบ การหาเสียงของชินให้ความสำคัญกับปัญหาการเลี้ยงดูเด็ก เน้นย้ำความจำเป็นในการสนับสนุนผู้ปกครองและการสร้างสมดุลงานกับชีวิตมากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนผู้สูงอายุ เนื่องจากประชากรญี่ปุ่นสูงวัยเร็วและกำลังแรงงานหดตัว
อายากะ นาซูโนะ นักการเมืองเจนแซด วัย 25 ปีอีกคนหนึ่ง ที่เปิดตัวหลังชนะการเลือกตั้งสภาเมืองคาวาซากิด้วยคะแนนเสียงมากที่สุดไปก่อนหน้านั้น
การถูกดูหมิ่นว่าเป็น “เด็ก” นาซูโนะตัดสินใจ “สร้างชุมชนของตนเอง” ขึ้นมาด้วยการตั้งโครงการทำความสะอาดถังขยะในท้องถิ่นที่เธอเริ่มทำงานกับประชาชนในเขตเลือกตั้งและใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น
“นี่คือการเริ่มต้นอาชีพของฉันในฐานะสมาชิกสภาเมืองดังนั้นฉันจะทำงานหนักเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเกิด” นาซูโนะทวีตข้อความหลังเลือกตั้ง ขอบคุณผู้สนับสนุนที่ลงคะแนนให้
นักการเมืองหญิงเชื้อสายอุยกูร์
นักการเมืองดังอีกคนหนึ่งจากการเลือกตั้งฤดูกาลนี้คือ อาร์ฟิยา เอริ วัย 34 ปี ที่มีพ่อแม่เป็นชาวอุยกูร์และชาวอุซเบก เธอทุ่มเทเพิ่มสิทธิผู้หญิงและความเสมอภาคทางเพศ
สภาอุยกูร์โลกระบุว่า เนื่องจากเอริลงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่น เธอจึงเป็นหญิงเชื้อสายอุยกูร์คนแรกของโลกที่ได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภา ซึ่งชัยชนะของเอริสำคัญมากสำหรับชุมชนชาวญี่ปุ่นเชื้อสายอุยกูร์ และชาวอุยกูร์พลัดถิ่น
ชาติพันธุ์อุยกูร์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตซินเจียงทางตะวันตกของจีน ที่รัฐบาลปักกิ่งถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ สหประชาชาติเรียกการกระทำเหล่านี้ในรายงานเดือน ก.ย.2565 ว่า “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”
ก่อนหน้านั้นสหรัฐเคยกล่าวหาจีนว่า จับชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมอื่นๆ ไว้ในค่ายกักกันมากถึง 2 ล้านคน แต่รัฐบาลปักกิ่งปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด
เอริยังเป็นสมาชิกสภาหนึ่งในไม่กี่คนที่ไม่ได้มีบรรพบุรุษเป็นญี่ปุ่น ประเทศที่ยังมีความผสมกลมกลืนสูงมากโดยมีผู้อพยพน้อย
เอริเกิดในญี่ปุ่นแต่ย้ายไปอยู่จีนตั้งแต่ยังเด็ก จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในสหรัฐแล้วทำงานให้สหประชาชาติ เธอวิจัยปัญหาอุยกูร์ระหว่างศึกษาในต่างประเทศเว็บไซต์ทางการของเอริ “ประณามการกดขี่ที่น่าสลดและการละเมิดสิทธิมนุษยชน” ชาวอุยกูร์
การมาของเอริยังเผยให้เห็นการเมืองและสังคมแบบชายเป็นใหญ่ของญี่ปุ่น ตอกย้ำปัญหาช่องว่างรายได้ระหว่างหญิงกับชาย ภาระการทำงานบ้านและเลี้ยงดูลูกที่ตกเป็นของผู้หญิง รวมถึงความจำเป็นที่ผู้ชายต้องมีบทบาทมากขึ้นในการเลี้ยงลูก
ปีก่อนเอริโพสต์ผ่านบล็อกว่า การเลือกเธอ “ผู้หญิงทำงานวัย 33 ปี” จะเป็นการส่งสารไปยังโลกว่า “ญี่ปุ่นกำลังก้าวไกล”