'เพื่อไทย' โล่ง! กกต.ยกคำร้องปม 'กระเป๋าเงินดิจิทัล' ชี้เป็นนโยบายหาเสียง
กกต.มีมติไม่รับคำร้อง ปมกล่าวหาเอาผิด 'เพื่อไทย' ปมเสนอ 'กระเป๋าเงินดิจิทัล' 10,000 บาท ชี้เป็นนโยบายหาเสียง ไม่เข้าข่าย หลอกลวง สัญญาว่าจะให้
เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2566 มีรายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า สำนักงาน กกต.มีการเสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ที่ประชุม กกต.พิจารณา กรณีมีการยื่นร้องให้ กกต.ตรวจสอบนโยบายหาเสียงกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทยว่า เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ และหลอกลวงให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครตามมาตรา 73 (1) (5) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หรือไม่
โดยที่ประชุม กกต.ได้พิจารณาและมีมติตามที่สำนักงานเสนอว่า ไม่ควรรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นนโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงเมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วจึงไม่อยู่ในข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง จึงมีมติ ยกคำร้อง
ทั้งนี้ ก่อนการเลือกตั้งนโยบายดังกล่าวตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ ขณะเดียวกันสำนักงาน กกต.มีหนังสือแจ้งให้พรรคเพื่อไทยทำการชี้แจงที่มาของวงเงินที่จะใช้ ความคุ้มค่า ประโยชน์ และความเสี่ยงของการดำเนินโครงการตามที่มาตรา 57 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินตรวจสอบความเป็นไปได้ของนโบาย และเปิดเผยให้ประชาชนทราบ
ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครส.สพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิญา สวัสดี ต่างก็มายื่นคำร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบเนื่องจากมองว่านโยบายนี้ ไม่สามารถทำได้จริง เข้าข่ายหลอกลวงและสัญญาว่าจะให้ และมองว่าเป็นการกระทำโดยคณะกรรมการบริหารพรรคซึ่งเหตุให้ถูกยุบพรรคได้