โอละพ่อ หุ้น itv เปลี่ยนเกม ถึงคิว พิธา-ก้าวไกล สวนหมัด
ความอึมครึมในทางการเมือง ขั้วว่าที่อำนาจใหม่ และซีกพรรคการเมืองในขั้วอำนาจเดิม ก็นิ่งสงบ จนเริ่มผิดสังเกต หัวหน้าพรรคใหญ่ในขั้วอำนาจเดิม บอกลูกพรรคให้นิ่ง แถมมีคำพูดบางประโยคที่ชวนคิดไปไกลอีกว่า “ให้เชื่อผู้ใหญ่ อย่าไปเชื่อเด็ก”
การเปิดเผยเอกสารบันทึกการประชุมสามัญประจำปี ผู้ถือหุ้น itv เมื่อ26 เม.ย.66 ที่ระบุว่าบริษัทยังดำเนินการอยู่ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท สวนทางกับคลิปวีดิโอที่เป็นการตอบคำถามของประธานที่ประชุม ชี้แจงผู้ถือหุ้นว่า “ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ รอผลในคดีให้สิ้นสุดก่อน”
สร้างเสียงวิพากย์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ว่าอาจมีขบวนการสมคบคิดเตะตัดขา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในการก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่30 ด้วยเรื่อง หุ้น itv หรือไม่ จนอาจกระทบกับการขึ้นสู่อำนาจของพรรคก้าวไกลในที่สุด
สถานการณ์เฉพาะหน้าตอนนี้เลยดูเข้าทางพิธา และก้าวไกล ว่าน่าจะเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์พอจะเห็นแนวทางพลิกเกมกลับมาตอบโต้และเอาชนะประเด็นถือหุ้นสื่อที่ กกต. ตั้งเรื่องตรวจสอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 151 ก่อนจะโอนออกหรือไม่
ความน่าสนใจอยู่ที่ว่า ข้อเท็จจริงในการประชุมผู้ถือหุ้น ที่บอกว่า “ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ รอผลในคดีให้สิ้นสุดก่อน” นั้น การันตีสถานะบริษัทว่าไม่ได้ประกอบกิจการสื่อได้เลย จนเหมือนพิธา ได้ไพ่วิเศษเข้ามาปัดเป่าเรื่องราวให้หายวับไปกับตาเช่นนั้นหรือไม่
ในเมื่อสถานะบริษัท itv ยังมีผลในทางกฎหมาย มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการชัดเจนตั้งแต่ต้น แม้จะไม่ได้ออกอากาศ เพราะสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) มีหนังสือยกเลิกสัญญา ไปเมื่อ7 มี.ค.50 แต่บริษัท itv ไม่ได้เปลี่ยนแปลงสถานะหรือยกเลิกบริษัทไปใช่หรือไม่
ถ้าคำตอบคือใช่ ก็อาจจะมีบรรทัดฐานเทียบเคียงกับตอนที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้พ้นส.ส.บัญชีรายชื่อ สมัยพรรคอนาคตใหม่ กรณีถือหุ้นวีลัค มีเดีย
มีประเด็นหนึ่งที่ธนาธร อ้างต่อศาลฯ ว่าได้เลิกผลิตนิตยสาร เลิกจ้างพนักงาน หยุดดำเนินกิจการแล้ว แต่ศาลฯ ชี้ว่า บริษัทวีลัค มีเดีย ยังสามารถประกอบกิจการเมื่อใดก็ได้ ตราบที่ยังไม่ยกเลิกบริษัท ก็ยังสามารถดำเนินการตามที่จดแจ้งได้
เมื่อเทียบกับกรณี พิธา และ หุ้นitv ก็พอเห็นจุดเหมือนต่างหรือไม่อย่างไร คงเป็นหนังม้วนยาวที่ต้องต่อสู้ผ่านกระบวนการกันต่อไป
ในมุมของก้าวไกล โดยชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค แถลงชัดว่า คลิปการประชุมมีส่วนสำคัญในการหักล้างเรื่องนี้ให้พิธา และเปิดโปงขบวนการที่พยายามขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลอาจนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีกับขบวนการปลุกผี itv โดยมิชอบด้วยกฎหมายหลายราย
ท่ามกลางความอึมครึมในทางการเมือง ในขั้วว่าที่อำนาจใหม่และซีกพรรคการเมืองในขั้วอำนาจเดิม เองก็นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว จนเริ่มผิดสังเกต
แต่ก็มีเสียงเล็ดลอดจากหัวหน้าพรรคใหญ่พรรคหนึ่งในขั้วอำนาจเดิม กำชับลูกพรรคเวลานี้ให้นิ่งไว้ คล้ายจะรอเวลาอะไรสักอย่าง แถมมีคำพูดบางประโยคที่ชวนคิดไปไกลอีกว่า “ให้เชื่อผู้ใหญ่ อย่าไปเชื่อเด็ก”
รวมไปถึงกระแสข่าวที่ว่า นายหญิงใหญ่แห่งตระกูลชินวัตร อย่างคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ ออกโรงเบรกการกลับไทยของทักษิณ ชินวัตร ไปก่อน และไม่อยากเสี่ยงให้ลูกสาว อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ในจังหวะเวลานี้
กระแสข่าวเบรกทักษิณและอุ๊งอิ๊ง ถูกนำเสนอออกมาก่อนที่ กกต. จะตั้งแท่นเช็กบิลพิธา ม.151 ปมหุ้นitv เพียงไม่กี่วัน เป็นไปได้หรือไม่ ขั้วอีลิทสีแดงอาจจะได้สัญญาณลมกำลังเปลี่ยนทิศ จนต้องกันคนใกล้ตัวออกจากช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานก่อน
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทฤษฎีสมคบคิดจะถูกหยิบขึ้นมาอธิบายความเป็นไปในบริบทการเมืองอยู่เสมอ เพราะบางอย่างเหมือนไม่มีจุดเชื่อมโยงกัน แต่ก็สามารถต่อกันได้อย่างแนบเนียน