"สุทิน" รับโหวตนายกฯ รอบ2อาจต้องเปลี่ยนแปลงตัวบุคคล

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีแนวทางจาก ส.ว. ที่จะยกข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่41 เพื่อขวางชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฐานะแคนดิเดตนายกฯ ที่ 8 พรรคเตรียมเสนอต่อรัฐสภา ในการเสนอชื่อโหวตต่อที่ประชุมรัฐสภาในรอบสอง ว่า ขณะนี้ต้องหารือว่า ประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นไปได้หรือไม่ รวมถึงว่าการเสนอชื่อนายกฯต่อที่ประชุมรัฐสภา นั้นถือเป็นญัตติหรือไม่

 

เมื่อถามว่าการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ตามขั้นตอนต้องมีคนเสนอชื่อและมีผู้รับรอง ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับการเสนอญัตติ นายสุทิน กล่าวว่า อาจจะเป็นไปได้ แต่ต้องขอศึกษาก่อน อย่างไรก็ดีในเรื่องนี้อยู่ที่ดุลยพินิจของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาว่าจะพิจารณาอย่างไร ทั้งนี้ตามข้อบังคับดังกล่าวกำหนดว่า ประธานรัฐสภาสามารถพิจารณาอนุญาตได้ เมื่อพิจารณาเห็นว่าเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ส่วนตัวมองความหมายว่าอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงเรื่องตัวบุคคล

 

เมื่อถามย้ำว่าหมายถึงว่าเปลี่ยนชื่อแคนดิเดตนายกฯที่จะเสนอต่อรัฐสภาหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “อาจจะใช่ หรือ อาจจะเป็นกรณีที่มีคนเสนอชื่อแข่งก็ได้ ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายนั้นอาจจะไม่เกี่ยวเพราะไม่ใช่ขั้นตอนของการโหวตครั้งนี้”

เมื่อถามถึงการประเมินสถานการณ์ที่จะมีผู้เสนอญัตติให้เลื่อนโหวตนายกฯ วันนี้ (13 กรกฏาคม) นายสุทิน กล่าวว่า ตนได้ยินข่าวมาแบบนั้นเช่นกัน แต่ตนประเมินไม่ได้ว่า ฝั่ง8พรรคจะแพ้ เพราะเท่าที่ทราบ พรรคอีกฝั่งนั้นไม่เอาด้วย เนื่องจากต้องการให้โหวตให้แล้วเสร็จ เพื่อให้จบไป อย่างไรก็ดี หากเกมพลิก และญัตติเลื่อนโหวตชนะ ตนมองว่าอาจจะมีผลกระทบต่อการโหวตนายกฯ ตามที่นัดอีกครั้งวันที่ 19 กรกฏาคม และ 20 กรกฏาคม และอาจจะมีผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลที่จะมีผลเสียตามมา ทั้งนี้8 พรรคคงได้แต่หาประเด็นโต้แย้งไม่ให้เกิดการเลื่อนโหวตเท่านั้น อย่างไรก็ดีในประเด็นนี้ต้องให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งว่าสามารถทำได้หรือไม่

 

 

“ส่วนตัวมองว่าตามข้อบังคับการเสนอญัตติให้เลื่อนโหวตนั้น สามารถทำได้ เพราะเป็นญัตติที่เป็นทำนองเดียวกัน กล่าวคือ การโหวตคือญัตติให้โหวต ส่วนญัตติเลื่อนคือ เลื่อนโหวตนายกฯ” นายสุทิน กล่าว